JAOKHUN SWEET FOURTEEN – เจ้าขุน

Written by  
26.02.18 2,906 views

        เพียงแค่พ่อเจ-เจตริน ปล่อยคลิปหยอกล้อแกล้งลูกชายสุดหล่อ เจ้าขุน-จักรภัทร วรรธนะสิน หนึ่งในลูกชายสาม ‘เจ้า’ (เจ้านาย เจ้าขุน เจ้าสมุทร) หัวแก้วหัวแหวนของพ่อเจ-เจตริน และแม่ปิ่น-เก็จมณี ในคืนวันคริสต์มาสออกมาภายในเวลาไม่กี่นาที ยอดวิวของพวกเขาก็ทะลุหลักหมื่น ย้อนกลับไปดูอีกที มีคนดูทะลุไปเกือบสองล้าน
         ยิ่ง ‘เจ้าขุน’ ลูกชายคนกลางของบ้าน ถึงแม้จะยังไม่มีผลงานอะไรออกมาให้เห็น แต่ก็น่าแปลกใจจริงๆ ว่า ทำไมเด็กหนุ่มอายุเพียงแค่ 14 ปี ถึงดังเป็นพลุแตก สร้างปรากฏการณ์ ‘#สะใภ้มโน’ จนมีสาวๆ ตามติดชีวิตได้มากมายขนาดนี้
           …

          นี่เป็นครั้งแรกที่เรามีโอกาสได้นั่งจับเข่าพูดคุยกับขุน และเป็นครั้งแรกของขุนที่ได้ลงปกนิตยสาร HAMBURGER ทันทีที่นาฬิกาบอกเวลา 18.00 น. เด็กหนุ่มหน้าตาหล่อเหลาคมเข้ม ภายนอกดูขี้เล่น กระตือรือร้น ก็เดินทางมาถึงสตูดิโอพร้อมด้วยรอยยิ้ม เขาหย่อนตัวลงนั่งประจำที่ให้เมคอัพอาร์ทติสเติมความหล่อ พูดคุยกับผู้คนรอบข้างอย่างเป็นมิตร ก่อนจะทำการเริ่มสัมภาษณ์และถ่ายแบบของนิตยสารแฮมเบอร์เกอร์ฉบับนี้ที่ว่าด้วย เรื่องราวชีวิต ทัศนคติ รวมถึงความคิดในแง่มุมต่างๆ

          หลังจากบทสนทนาจบลง ตอนไหนไม่รู้ที่เราตกหลุมรักเจ้าขุน นอกจากหน้าตาที่สาวกรี๊ด ทัศนคติของเด็กวัย 14 ปีคนนี้นี่แหละ คือสิ่งที่ทำให้น่ากรี๊ดกว่านั้น



ตอนไหนที่เริ่มรู้ตัวว่าพ่อแม่เป็นคนดัง พอรู้แล้วรู้สึกอย่างไรบ้าง? 

   “จำไม่ได้เลยครับว่าเมื่อไหร่ มันนานมากแล้ว จำได้แค่ตอนเห็นเขาขึ้นคอนเสิร์ต ถ่ายโฆษณา และถ่ายละคร ตอนนั้นก็แค่คิดในใจว่า พ่อกับแม่ของเราเป็นดาราหรอ”

ดีใจไหมที่เกิดมาเป็นลูกพ่อเจ-แม่ปิ่น?     
   “รู้สึกดีใจมากครับ รู้สึกโชคดี” 

คิดว่าตัวเองโตกว่าเด็กคนอื่นในวัยเดียวกันบ้างไหม?

   “ก็โตนะ ขุนจะชอบอยู่กับพวกรุ่นพี่ จะมีเพื่อนเป็นรุ่นพี่ซะส่วนใหญ่ ไม่ค่อยมีเพื่อนวัยเดียวกัน”

ช่วยพูดถึงเจ้านาย เจ้าสมุทร พ่อเจ และแม่ปิ่นให้ฟังกันหน่อย   
   “เจ้านายจะเป็นคนเงียบๆ ซ่าเงียบ เวลาจะทำอะไร กว่าทุกคนจะรู้ก็คือเขาทำไปแล้ว เขาจะไม่บอก แต่เขาจะเป็นพี่ชายที่คอยตักเตือนเวลาผมทำอะไรเลอะเทอะ ส่วนเจ้าสมุทรยังเด็กอยู่ จะเป็นคนซ่าๆ แสบๆ ในแบบของเขา เฮฮาตลอด นิสัยดี แม่จะเป็นคนที่ชอบดุ แต่พ่อดุกว่า ดุทีเดียวแล้วดุจบเลย รู้สึกอยากจะตาย (หัวเราะ)”

มีคนเคยบอกว่า เกิดเป็นลูกกลาง แล้วพ่อแม่จะรักเราน้อยกว่าลูกคนอื่น คิดอย่างนั้นหรือเปล่า?    
   “พ่อแม่เคยพูดกับผมตอนเด็กๆ ว่า มันไม่จริง การเป็นลูกคนกลางไม่ได้หมายความว่า จะทำให้พ่อแม่รักเราน้อยลง”
มีปัญหาเลือกปรึกษา (
) พ่อเจ  () แม่ปิ่น

พ่อกับแม่สนิทกับใครมากกว่ากัน?           
   “สนิทกับทั้งคู่เลยครับ แต่สนิทกันคนละแบบ แต่ละคนก็มีเรื่องให้ปรึกษากันคนละเรื่อง วันไหนมีปัญหาผมตื่นมาเจอใครก่อนก็จะถามคนนั้นนั่นแหละครับ เจอแม่ก็ถามแม่ เจอพ่อก็ถามพ่อ คุยได้ทั้งคู่”

คิดว่าใครมีนิสัยเหมือนตัวเองมากที่สุด?         
   “ขุนว่าขุนเหมือนพ่อ ซ่าแบบเอ็กซ์ตรีม”

ขุนเป็นแฟนพันธุ์แท้ของพ่อเจอยู่ในระดับไหน         
   “
ก็รู้ว่าเพลงทุกเพลงของพ่อร้องยังไง แต่ก็ไม่รู้เนื้อนะครับ ร้องฮัมตามได้ หนึ่งถึงร้อยก็ประมาณสักเจ็ดสิบ(ข้อนี้ขอรับรองว่าเป็นความจริง เพราะเราพิสูจน์โดยการให้เจ้าขุนเล่นเกมส์ทายชื่อเพลงเก่าของเจ-เจตริน จำนวน 10 เพลง ผลลัพธ์ที่ออกมาคือ เขาตอบถูกทุกข้อ!)

ประทับใจอะไรในตัวของพ่อเจ          
   “พ่อเป็นคนที่ทำงานทุกวัน ตั้งใจทำงานและขยันมากครับ ไปคอนเสิร์ตทุกวัน บางทีวันหนึ่งเขามีไปตั้งสองเวที น่าจะเหนื่อยมาก แต่พ่อก็ต้องทำ เวลาเห็นพ่อ ขุนจะมีวิธีทำให้พ่อหายเหนื่อย อย่างเวลานั่งกินข้าวด้วยกัน ขุนจะชอบคุยกับเขา เทน้ำ ทำอาหาร ตั้งใจเรียน แล้วเขาก็จะหายเหนื่อย”

‘เด็กดี’ สำหรับขุนต้องเป็นคนแบบไหนกัน         
   “เชื่อฟังพ่อแม่ ตั้งใจเรียน และไม่ทำอะไรผิดบ่อยๆ นี่แหละครับที่เรียกว่า เด็กดี”

คิดว่าตัวเองจัดเป็นเด็กดีหรือเปล่า?        
   “บางทีครับ ส่วนมากก็โอเค ผมเชื่อฟังพ่อแม่”

ปีที่ผ่านมาได้รางวัลอะไรจากการเป็นเด็กดีบ้างไหม?        
   “พ่อให้รองเท้า ส่วนแม่ให้แหวนครับ”

เคยขอเขาเอาไว้หรือเขาให้เราเอง?         
   “ขุนไม่ขออะไรจากเขามานานแล้วครับ ไม่ได้อยากได้อะไรเลย แต่เขาก็ให้กันมา ทุกๆ ปีที่บ้านจะมีการให้ของขวัญกัน ล่าสุดพ่อซื้อรองเท้าให้ อยากโชว์ให้ดูนะ สวยมากกกกกกก (ลากเสียงยาว) พ่อจะเป็นคนมีวิธีให้ของต่างจากคนอื่น เขาจะชอบให้ของที่ไม่ดีมาก่อน อย่างสองปีก่อนเขาซื้อกาวกับที่โกนหนวดให้ขุนก่อนจะให้ของดีๆ หรืออย่างเขาบอกว่า พ่อมีเสื้อเชิ้ตกับกางเกงให้แค่นี้พอนะลูก พ่อไม่ได้ซื้ออะไรให้ขนาดนั้น แล้วขุนก็ตอบกลับไปว่า อ้อ! ขอบคุณครับ แต่พอหยิบของมาถ่ายรูปกันเสร็จเรียบร้อยเท่านั้นแหละ เขาก็หยิบของอีกชิ้นออกมาเซอร์ไพร์สอีกที เราก็ร้องว้าวเลย ตกใจมาก”  


โดนพ่อแม่ดุครั้งแรกเมื่อไหร่ จำความรู้สึกนั้นได้ไหม ความผิดแรกที่ทำในชีวิตคืออะไร?
   “ตอนเด็กๆ เคยเกือบทำบ้านไฟไหม้ ขุนเอาไฟแช็กไปเล่น เพราะตอนนั้นไม่รู้ว่ามันคืออะไร พอจุดปุ๊บไฟก็ลุกไหม้ยาวไปรอบๆ เครื่องซักผ้าที่มีเสื้อผ้าอยู่ข้างในเต็มไปหมดก็ติดไฟ ไฟลุกกระจาย เละเลยครับ โดนตีเละ (หัวเราะ) แต่หลังจากนั้นเวลาทำผิด เราก็เรียนรู้ว่า เราไม่ควรทำสิ่งไม่ดีแบบนั้นอีกครับ”

พ่อเจแม่ปิ่นมีบทลงโทษเวลาเราทำผิดอย่างไรบ้าง
    “ตอนเด็กก็มีตีบ้างครับ แต่เดี๋ยวนี้เขาจะเรียกมาคุยด้วยเหตุผลมากกว่า ทำอะไรรู้ตัวไหมว่าผิด ตอนนี้ตีก็ไม่เจ็บแล้ว ไม่ได้ผล โดนเรียกคุยนี่น่ากลัวกว่าเยอะ บทลงโทษคงเป็นการที่พ่อแม่ทำให้เรารู้สึกไม่ดี เราก็จะมานั่งรู้สึกผิดเอง เหมือนขุนได้เรียนรู้และกลับมานั่งทบทวนกับสิ่งที่ตัวเองได้ทำไปด้วยตัวเอง”

คำสอนของพ่อหรือแม่ที่จดจำได้เป็นอย่างดี?         
   “เขาเคยบอกกับเราว่า ไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม ให้คิดว่ามีพ่อแม่ยืนอยู่ดูอยู่ข้างหลัง แล้วถ้าคิดว่าทำแล้วพ่อแม่จะต้องเสียใจมากก็ไม่ต้องทำ อีกอย่างหนึ่งคือ คิดดีทำดี ห้ามหลงตัวเอง ต้องรู้ว่าเราเป็นใครมาจากไหน เป็นสุภาพบุรุษครับ”

แต่ก่อนกลับมาไทยทีก็คือมาพักผ่อน เดี๋ยวนี้กลับมาต้องทำงาน ชอบชีวิตแบบนี้แค่ไหน?
   “สบายๆ ส่วนหนึ่งขุนคิดว่า การทำงานก็เป็นอีกหนึ่งงานอดิเรกของเราไปแล้ว เราไม่ได้อยากคิดว่ามันต้องเป็นงาน เพราะเราก็ได้มาทำอะไรสนุกๆ หาเงินเองได้”
ถ้าเลือกได้อยากเรียนที่อังกฤษหรือไทย?

   “ตอนนี้ขี้เกียจกลับอังกฤษ อยากอยู่ไทยแล้วครับ ขี้เกียจบินไปกลับ อยากทิ้งตัวอยู่ที่นี่แล้ว”

ชอบหรือไม่ชอบไปโรงเรียน         
   “ไม่ค่อยชอบเท่าไหร่ เรียนน่ะไม่สนุก แต่อยู่กับเพื่อนแล้วสนุก”

บรรยากาศการเรียนที่อังกฤษเป็นยังไงบ้าง
   “สบายดีครับ จริงๆ ขุนชอบไปอยู่ที่นู่นเพราะไม่ค่อยมีใครรู้จัก เราจะทำอะไรก็ได้”

ในชั้นเรียนสอบได้คะแนนอันดับเท่าไหร่
   “C กับ B ครับ แต่ดนตรีได้ A+”

ชอบเรียนวิชาอะไรมากที่สุด
    “ดนตรีครับ”

โตขึ้นอยากเรียนอะไร?
   “น่าจะเป็นมีเดีย หรืออาจจะเป็นแฟชั่นก็ได้ ตอนนี้ขุนกำลังจะมีสอบอยู่ พอผ่านช่วงปีสองปีนี้ไปเราก็ต้องมาเลือกว่าจะเข้าเรียนอะไร แล้วก็เข้ามหาวิทยาลัยเลย และถ้าเป็นไปได้ขุนก็อยากทำงานเป็นเบื้องหน้าเบื้องหลัง อย่างสมมติถ้าได้เล่นหนังก็คงอยากช่วยกำกับด้วย”

กลุ่มเพื่อนสนิทที่อังกฤษเป็นคนแบบไหน
    “ห้าวๆ หน่อยครับ”

ชอบแกล้งเพื่อนหรือโดนแกล้ง
    “ชอบแกล้งเพื่อนครับ (หัวเราะ)”

ไปแกล้งอะไรเขา
    “ก็ชอบเข้าไปในห้องน้ำ มีคนอาบน้ำอยู่ ก็จะแอบปิดไฟ แล้วแอบเอาเสื้อผ้าของเขาออกมาหมดเลย ล็อคเขาไว้ในห้อง หรือบางทีก็อุ้มเขาเข้าใต้หลังคา แล้วล็อคประตู เอาโค้กไปใส่น้ำปลาแทน เค็มมาก”

ไหนบอกว่าเป็นเด็กดีไง
   เจ้าขุนนิ่ง พร้อมกับส่งสายตายิ้มอยู่สักพัก “เป็นเด็กดีครับ เด็กดีที่เชื่อฟังพ่อแม่” (หัวเราะ)

ในฐานะนักเรียนนอก อาหารไทยเมนูไหนที่อยากกินบ่อยที่สุดตลอดเวลาที่ใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นคืออะไร?

    “กระเพราหมู!”
นี่คือเมนูจานโปรดหรอ?
   “ตอนนี้ชอบหมูทอดกระเทียมพริกไทยกับไข่เจียวครับ กินง่ายๆ”

อาชีพแรกที่อยากเป็นในชีวิตคืออะไร
    “เจ้าของกิจการครับ นักธุรกิจผสมกับขายเสื้อผ้า ขุนชอบแฟชั่น”

ชอบแต่งตัวสไตล์ไหน       
    “แล้วแต่วันครับ บางวันก็อยากใส่เสื้อเชิ้ตสบายๆ แต่ถ้าวันไหนอยากดูสมาร์ทก็อาจจะใส่รองเท้าโลฟเฟอร์ กางเกงขายาว เสื้อพับแขน มีความคิดที่อยากมาเรียนทางด้านออกแบบแฟชั่นอยู่เหมือนกันขุนชอบคิดอะไรไปเรื่อย ชอบเพ้อ ชอบแต่งตัว”

ปกติดูหนังแนวไหน?        
   “ชอบหนังแนวโรแมนติกคอมมาดี้ครับ”

แสดงว่าเป็นคนโรแมนติก         
   “ถ้าจะให้เป็นคนโรแมนติกก็เป็นได้ครับ แต่ส่วนมากจะเป็นคนเฮฮาตลกมากกว่า”

เรื่องจีบสาวเป็นยังไง        
   “สมมติจะให้ขุนจีบสาวน่ะหรอ จะให้ขุนทำอย่างไร ลองตั้งเหตุการณ์สมมติมาหน่อยสิครับ แล้วเดี๋ยวขุนจะบอกว่า ตัวเองจะต้องทำยังไง”

ยืนกอดอกอยู่เฉยๆก็พอแล้ว

  “ไม่ได้หรอก เราไม่ชอบให้คนมาจีบก่อน เราชอบไปจีบเขาก่อน”

สมมติแอบชอบรุ่นพี่คนหนึ่ง จะเข้าไปจีบเขายังไง?
   “ขุนก็จะแอบสอดแนมดูก่อนว่าเขาเป็นใคร มากับใคร สังเกตการณ์ก่อน แล้วค่อยเข้าไปนั่งเนียนๆ ชวนคุยกับเขา เลี้ยงข้าว ซื้อน้ำให้เขา เพื่อให้เขาเห็นถึงความทุ่มเทของเรา (หัวเราะ) ตอนเด็ก
พ่อเคยแอบถ่ายคลิปวิดีโอเอาไว้ ถึงรู้ว่าตอนเด็กผมจีบผู้หญิงยังไง ตอนนั้นผมกำลังขี่จักรยานเล่นกับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง แล้วเราก็แกล้งขี่จักรยานเข้าไปใกล้ๆ เพื่อชนเขา แค่นั้นเลยครับ แต่ก็ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นต่อ”

เป็นคนแอบชอบใครแล้วจะไม่กล้าบอกเขาไปตรงๆหรือเปล่า?
   “บอกตรงครับ ถ้าขุนชอบใคร ขุนจะเดินเข้าไปบอกเขาตรงๆ ไปคุยกับเขา ดูว่าเขาเป็นคนอย่างไร”

คนแบบไหนที่เจ้าขุนรู้สึกชอบ?
   “คนตลก คนที่อยู่ด้วยแล้วสบายใจ”

แล้วส่วนตัวคิดว่าตัวเองเป็นคนตลกหรือเปล่า คิดว่าเวลาเจอคนแปลกหน้าครั้งแรก ส่วนใหญ่เขามองว่าเราเป็นคนอย่างไร?

   “เป็นคนต๊องๆ เอ๋อๆ ครับ (หัวเราะ) ชอบปล่อยมุกไปแต่ก็แป้กตลอด ขุนก็เป็นคนชิลล์ๆ สบายอย่างนี้นี่แหละ เฟรนด์ลี่ ชอบคุยกับคนอื่น แต่จริงๆ ผมก็ไม่อยากพูดหรอกว่า ตัวเองเป็นคนตลก เพราะคนที่พูดว่าตัวเองตลก มันดูไม่ตลกหรอก”

เรื่องไหนที่จัดให้อยู่ในโหมดซีเรียสของชีวิต?
   “นั่นสิ (หัวเราะ) ก็ไม่ค่อยมีเรื่องซีเรียสเท่าไหร่หรอก ชีวิตของขุนก็จะสนุกๆแบบนี้แหละครับ แต่เวลาเล่นกีฬาก็จะมีซีเรียสบ้าง อย่างเช่นเวลาไปวิ่ง 100 เมตร ก่อนจะเริ่มวิ่ง ขุนจะไม่คุยกับใครเลย ก่อนเริ่มจะตัดทุกอย่างรอบตัวออก หลังจากอธิษฐานเสร็จ เราก็จะหายใจเข้าหายใจออกช้าๆ แต่พอวิ่งเสร็จ เราก็จะกลับมาเฮฮาเหมือนเดิม ต้องตั้งสมาธิก่อน  ส่วนเวลาทำงานขุนจะไปตีสนิทกับทุกคนก่อน สนิทกับทุกคนในกอง แล้วงานมันจะดำเนินไปได้ดี ขุนคิดว่าตัวเองก็เป็นคนมีความมั่นใจนะ แต่กับบางคนเวลาเจอเราก็จะรู้สึกเขินอยู่หน่อย ทำตัวไม่ค่อยถูก เวลาตื่นเต้นจะพูดเยอะและเสียงดัง บ้าพลัง”

เรื่องที่ทำให้เสียน้ำตามากที่สุด
   “ขุนไม่ค่อยร้องไห้ แต่เวลาพ่อแม่ไม่สบายก็จะรู้สึกเสียใจ เครียด แต่ตอนนี้เครียดเรื่องเรียนมากกว่า เดี๋ยวก็ต้องกลับอังกฤษไปเรียนต่อแล้ว กลับไปใส่สูท ตื่นแต่เช้า และกำลังจะมีสอบด้วย”

ขุนติดโซเชียลไหม?
   “ก็ไม่ติดนะครับ ส่วนใหญ่ก็เอาไว้คุยกับเพื่อนเฉยๆเอง”

ปกติใช้เวลาว่างไปกับการทำอะไร?
   “ถ้าอยู่บ้านเฉยๆ จะชอบกินข้าวกับครอบครัวครับ มีความสุข เล่นดนตรี แต่ถ้าออกข้างนอกก็จะชอบไปเที่ยวทะเล บางครั้งก็ไปกับที่บ้านครับ บางทีก็ไปกับเพื่อน อย่างตอนไปเที่ยวกับที่บ้านก็ไปล่องเรือกัน นอนชิลล์ๆ กระโดดน้ำตีลังกากลับหลัง เล่นเจ็ทสกี”

ทะเลแบบไหนที่อยากไปมากที่สุด
   “อยากไปมัลดีฟส์อีกครับ เงียบสงบดีมาก ตื่นมาก็กระโดดลงน้ำได้เลย น้ำทะเลใสแจ๋ว แล้วก็ทะเลในประเทศไทยสักที่ก็อยากไป ชอบบรรยากาศสบายๆ”

แล้วงานอดิเรกอื่นล่ะ?
   “ชอบเล่นสเก็ตบอร์ดครับ”

ดูเป็นคนชอบความท้าทาย
   
“ก็ชอบนะ ปกติขุนเล่นกีฬารักบี้กับบาสเกตบอลครับ โหด แต่สนุกมาก มันส์ บาสเกตบอลเป็นกีฬาที่เล่นมาตั้งแต่เด็กเลย ขุนเล่นกีฬาให้รุ่นพี่ด้วย เจ้านายก็เล่น”

เคยเกิดอุบัติเหตุจากการเล่นกีฬาหรือเปล่า
   “เคยครับ หลังโดนกระแทกแรงมาก เดินแทบไม่ได้เลย เวลาเดินจะรู้สึกเจ็บหลังมาก”

ชอบฟังเพลงไหม?
   “ชอบมากครับ ฟังทุกวันเลย ส่วนมากก็ฟังไปตามอารมณ์ แต่แนวเพลงที่ชอบเป็นพิเศษจะเป็นแนวเพลงอาร์แอนด์บีเพลงป็อบ อาจจะฮิปฮอปนิดนึง ถ้าเกิดมู้ดมันได้ หรือ The Toys ก็ชอบพี่เขาเหมือนกัน ถ้ามีโอกาสเจอเขาฝากบอกว่า สวัสดีด้วยนะครับ บอกพี่เขาด้วยว่า เจ้าขุนชอบมาก พี่อะตอม ชนกันต์ ก็เป็นอีกคนที่ขุนชอบมากๆ”

ชอบร้องเพลงหรือเต้นมากกว่ากัน
   “ร้องเพลงครับ เต้นไม่เป็น”

ต่อไปพวกเราจะได้เห็นเจ้าขุนทำงานด้านดนตรีหรือเปล่า?
   “มีครับ กำลังอยู่ในขั้นตอนการทำเพลงกันอยู่ แต่ก็ต้องกลับไปเรียนและสอบให้เสร็จเรียบร้อยก่อน เพลงที่กำลังทำจะเป็นแนวเพลงฮิปฮอปกึ่งป็อบ มีทั้งร้องและแร็ป”


เลือกใช้ชีวิตธรรมดาก็ได้ ทำไมถึงเข้ามาในวงการที่งานหนักและมีคนจับจ้องตลอดเวลา?
   “มันก็ต้องแลกแหละครับ ถ้าอยากจะมาทางนี้ก็ต้องมาทางนี้ไปเลย อย่างเวลาไปเที่ยวมันก็ไม่ได้มีความเป็นส่วนตัว จะทำอะไรเราก็ต้องคิดให้ดี แล้วขุนว่ามันก็ช่วยตัวเราเองด้วย พอมาอยู่ตรงนี้ ถ้าเราคิดจะทำอะไรไม่ดี มันก็ไม่ได้ใช่ไหม ตอนนี้เรามีงานการทำ ก็อยู่ที่เราเลยว่า เราจะเลือกชีวิตแบบไหน”

สนุกกับการทำงานมากน้อยแค่ไหน?
   “สนุกมากครับ ขุนเป็นคนร่าเริง (หัวเราะ)”

ไม่เหนื่อยหรอ?
   “เหนื่อยครับ แต่ก็ต้องทำ แต่ ณ เวลานี้ไม่เหนื่อยเลยนะ นี่รู้สึกว่าเฟรชมาก”

หาเงินก้อนแรกได้เองเมื่อไหร่ เอาไปใช้ทำอะไรบ้าง?
   “ถ่ายโฆษณาครับ ถ่ายโฆษณาเครื่องดื่มไมโลกับแม่ แต่แม่แอบหักไปอ่ะ ขุนไม่ได้เก็บเลย (หัวเราะ) จริงๆ ต้องบอกว่า เรายกให้แม่ไปน่ะแหละ เพราะตอนนั้นขุนก็ใช้เงินเองไม่เป็นอยู่ดี เขาก็เก็บเงินไว้ใช้กับขุนไง ส่วนตอนนี้ทำงานได้เงินมา แม่ก็บอกให้เราเก็บเงินในบัญชีเอาไว้ใช้”

แล้วเรื่องล่าสุดที่รู้สึกภูมิใจในตัวเองมากคืออะไร?
   “เพิ่งขายรองเท้าให้เพื่อนไปได้เงินมาสองหมื่นบาท อันนี้รู้สึกภูมิใจมาก เพราะหาคนซื้ออยู่ตั้งนาน แล้วก็มาจบที่เพื่อนของเราเองเป็นคนซื้อ”

เป้าหมายในชีวิตของเจ้าขุน?
   “คิดแบบไกลๆโตๆ เลยนะ มีงานมีการทำ มีครอบครัวและภรรยาที่ดี ไม่ได้หวังของอะไร ชอบผมที่นิสัยและหัวใจ มีลูกที่รักพ่อแม่ โหคิดไปไกลมากเลยนะ ตอนขุนแก่นอนขยับไม่ได้ ก็อยากให้พวกเขามาเยี่ยมขุนบ่อยๆ ซื้อของมาอวยพรครับ (หัวเราะ)”

ถ้าเลือกได้อยากมีลูกแบบเจ้าขุน เจ้านาย หรือเจ้าสมุทร?

   “แบบขุนก็ได้ น่าจะมันส์ดีครับ”

อย่างนี้พ่อแม่จะไม่ปวดหัวกันใช่ไหม?
   “ไม่ปวดหัว ผมเป็นเด็กดี จริงๆ อยากได้ลูกผู้ชาย แต่พูดแบบนี้สงสัยจะได้ลูกเป็นผู้หญิงแน่เลย เอาลูกที่นิสัยดีละกัน”

ยังมีอะไรอีกไหมที่ตอนนี้อยากทำมากที่สุดในชีวิต
   “เป็นคนดีของพ่อแม่ตลอดไปครับ อยากทำแบบนี้ (หัวเราะ)”

เรื่องทุ่มเทที่สุดที่เด็กอายุ 14 ปีอย่างเจ้าขุนทำคืออะไร?

   “เรื่องจีบสาวติดได้ไหม”

คิดว่าวันหนึ่งโตขึ้นมาเป็นผู้ใหญ่ แล้วนึกถึงตัวเองตอนอายุ 14 ปี อะไรเป็นเรื่องที่เราจะคิดถึง
   “น่าจะเรื่องเรียนแหละ ทุกคนพูดว่า ไม่อยากโตหรอก โตมาก็อยากกลับไปเป็นเด็ก กลับไปเรียนไม่ต้องทำอะไร จริงๆ แล้วเราไม่ใช่คนชอบเรียนหรอก ยอมทำงานทั้งวันดีกว่าไปเรียน แต่ขุนก็รู้แหละว่าการเรียนเป็นสิ่งสำคัญ”