The Newcomer แจ๊คกี้-จักริน กังวานเกียรติชัย

เลือดข้นคนจาง เป็นละครแนวแฟมิลี่ดราม่าเรื่องใหม่ในโปรเจ็กต์ 9×9 ที่เต็มไปด้วยโปรไฟล์นักแสดงเลือดใหม่ หนึ่งในนั้นคือจักริน กังวานเกียรติชัย หรือแจ๊คกี้ ที่ได้รับบทบาทการแสดงครั้งแรกในผลงานละครเรื่องนี้ และยังเป็นน้องใหม่แกะกล่องของโปรเจ็กต์ แม้ชั่วโมงบินของแจ๊คกี้จะมีน้อย แต่น้องเล็กอย่างเขาก็เป็นอีกคนหนึ่งที่ไม่ควรพลาดจับตามอง


จุดเริ่มต้นของโปรเจ็กต์ 9×9 สำหรับแจ๊คกี้คืออะไร

ก่อนหน้านี้ผมเคยร่วมงานกับพี่ไอซ์ (พาริส อินทรโกมาลย์สุต) มาก่อน มีวงดนตรีด้วยกันชื่อว่า Yellow Mustard พี่ไอซ์เข้าไปอยู่นาดาวก่อน และแนะนำผมให้กับพี่วุธ (อนุวัติ วิเชียรณรัตน์) 4NOLOGUE ผมเลยมีโอกาสได้เข้าไปออดิชั่นและได้มาเป็นสมาชิกของโปรเจ็กต์ 9×9

 

ก่อนเข้ามาอยู่ในโปรเจ็กต์ 9×9 รู้ไหมว่าต้องทำอะไรบ้าง

ไม่รู้เลยครับ ตอนที่มาออดิชั่นเราไม่มีภาพเลยว่าจะเป็นอย่างไร แค่ทำให้เต็มที่และทำให้ดีที่สุด ตอนนั้นผมรู้สึกว่าตัวเองทำได้เต็มที่ จำได้ว่าตอนเดินเข้าไปในห้องสตูดิโอสำหรับออดิชั่น ผมรู้สึกว่ามันใหญ่มาก เราไม่เคยเห็นห้องแคสติ้งที่มีขนาดใหญ่เท่านี้มาก่อน และมีกรรมการหลายคนมานั่งดูเรา ตื่นเต้นสุดๆ จะว่ากดดันไหมก็ไม่กดดันนะ เราก็ทำในส่วนของเราไป

 

อะไรคือเรื่องยากที่สุดในโปรเจ็กต์ 9×9
 
ผมว่าเรื่องการเต้นยากมาก เพราะผมเริ่มมาจากศูนย์เลย ไม่มีพื้นฐานด้านการเต้นแม้แต่นิดเดียว เต้นพอได้ จับจังหวะพอได้ แต่ไม่มีความคมชัดหรือเต้นแล้วจะมีเสน่ห์ สมัยก่อนผมเป็นคนขี้อาย ไม่ค่อยอยากเต้นเท่าไหร่ เราอยากทำแต่ไม่กล้าทำ แต่พอได้เข้ามาในโปรเจ็กต์นี้เราถึงได้ลองทำ


ถือเป็นการปลดล็อกในชีวิตเลยไหม

ปลดล็อกมาก เราเพิ่งค้นพบว่าเราไม่กล้าเต้น เพราะอยู่กับคนอื่นแล้วเราอาย สมัยก่อนผมขี้อายมาก แต่ตอนนี้เราก็แสดงออกมากขึ้น

 

ที่บอกว่าเป็นคนขี้อายนี่อายระดับไหน

  เราจะอาย เฉพาะเวลาที่เราทำออกมาได้ไม่ดี

 

ร่วมงานกับพี่ๆ และผู้กำกับอย่างพี่ย้ง ทรงยศ เป็นอย่างไรบ้าง

เป็นความฝันเลยครับ ผมติดตามผลงานของพี่ย้ง าตั้งแต่หนังเรื่องแฟนฉัน, เด็กหอ ผมรู้สึกว่างานของเขาดีจริงๆ พอได้มาร่วมงานกันผมรู้สึกกลัว (หัวเราะ) ผมจะชอบค้นหาเบื้องหลังการถ่ายทำ แล้วเราเห็นพี่ย้งโหดขณะถ่ายทำ ตอนที่เข้าโปรเจ็กต์ 9×9 ใหม่ๆ ผมไม่กล้าเข้าหาพวกพี่ๆ เขาเลย ได้แต่พูดว่า สวัสดีครับ ยินดีที่ได้รู้จัก ชื่อแจ๊คกี้ครับ แต่พอได้เข้าไปอยู่แล้ว พี่ๆ เขาก็ชวนคุยก่อน เปิดใจ ผมก็รู้สึกโล่งใจ

 

สนิทกับใครที่สุดในโปรเจ็กต์ 9×9

  ผมสนิทกับพี่ไอซ์ เพราะรู้จักกันมานานแล้ว คุยกันได้ทุกอย่าง

 

พอได้มาแสดงละครเรื่องแรก เลือดข้นคนจาง เป็นอย่างไรบ้าง

   ผมรับบทเป็นเต้ย เป็นน้องชายคนสุดท้องของครอบครัว ในครอบครัวจะมีพี่น้อง 4 คนที่เป็นผู้ชายทั้งหมดเลย มีพี่ต่อ (ธนภพ  ลีรัตนขจร) เป็นพี่ชายคนโต พี่กัปตัน (ชลธร คงยิ่งยง) เป็นพี่ชายคนรอง และมีพี่เติร์ด (ลภัส งามเชวง) เป็นพี่ชายคนกลาง ส่วนคุณพ่อจะเป็นพี่ต้อม (พลวัฒน์ มนูประเสริฐ) และคุณแม่จะเป็นพี่แหม่ม (คัทลียา แมคอินทอช) ตัวละครของเต้ยจะเป็นเด็กนักเรียนวัยรุ่นคนหนึ่งที่เพิ่งแตกหนุ่ม อยากลองอยากรู้

 

บท ‘เต้ย’ เหมือนหรือแตกต่างจากตัวตนในชีวิตจริง

  เต้ยจะมีบางอย่างที่ในชีวิตจริงเราไม่เคยเจอ บทค่อนข้างเป็นเรื่องไกลตัวจากตัวเรามากๆ แต่บทของพี่ย้งเขาจะให้นักแสดงเล่นแบบเป็นตัวของตัวเองมากที่สุด เพื่อจะได้ดึงเสน่ห์ของตัวเองออกมาให้ได้มากที่สุด 

 

แล้วเราดึงเสน่ห์อะไรของตัวเองออกมา

  น่าจะเป็นความกวน

 

คิดว่าแวบแรกที่คนเห็นเรา เขามองว่าเราเป็นคนยังไง

  คงเป็นคนกวนๆ มั้ง ผมคิดว่าหน้าผมกวนนะ แต่ถ้ารู้จักแล้วเราจะเปิดใจให้เขา เราจะเชื่อใจว่าเราสามารถคุยกับเขาได้

 

แจ๊คกี้มีพี่น้องไหม

มีน้องสาวครับ ผมเป็นพี่คนโต

 

ในชีวิตจริงเป็นพี่คนโต แต่ในละครต้องมารับบทเป็นน้องคนสุดท้อง เห็นอะไรในมุมของการเป็นน้องเล็กที่ไม่เคยเห็นมาก่อนหรือเปล่า

การที่ได้เป็นพี่ชายเราต้องคอยดูแลและสั่งสอนน้อง แต่พอมาเป็นน้อง เราเป็นฝ่ายที่ต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง การที่ผมรับบทเป็นน้องคนสุดท้อง จริงๆ ผมก็ไม่ได้รู้สึกอะไรนะ เพราะโปรเจ็กต์ 9×9 ผมก็เป็นน้องเล็กสุดอยู่แล้ว เราจะรู้สึกผูกพันกับพี่ๆ มากกว่า เหมือนพวกเขาเป็นพี่ชายของเรา 

 

นอกจากเรื่องการแสดงแล้ว ได้ยินว่าโปรเจ็กต์ 9×9 จะมีคอนเสิร์ตด้วย

ตอนนี้เรื่องเพลงพวกเราก็ฝึกซ้อมกันไปค่อนข้างเยอะแล้ว อยากจะฝากทุกๆ คนไว้ด้วยครับ

 

ความฝันสูงสุดของแจ๊คกี้คืออะไร

ผมยังไม่มีเป้าหมายสูงสุดของตัวเอง ผมว่าการที่เราตั้งเป้าหมายหรือมีความฝันอันสุดท้ายไว้แล้ว มันจะทำให้เราไม่สามารถฝันต่อไปได้อีก การที่เรามีเป้าหมายหรือมีความฝัน ถ้าเราไปถึงแล้วเราจะไม่รู้ว่ายังมีอะไรให้เราไปต่อหรือไขว่คว้าอีก การที่เราไม่ได้ฝัน แต่ทำให้มันเกิดขึ้น เราจะสามารถทำอะไรอีกหลายอย่างที่ไม่เคยทำ ผมว่าถ้าลองทำตามฝันดูแล้วประสบความสำเร็จ ก็อยากให้ลองหาความฝันใหม่ๆ ดูบ้าง ผมเชื่อว่าความฝันของทุกคนไม่ได้มีแค่ความฝันเดียว

 

สิ่งที่ได้เรียนรู้จากการเป็น 9×9

ผมได้เรียนรู้ที่จะรับผิดชอบตัวเอง เดินทางไปซ้อมเอง ไม่มีใครมาคอยบอกแล้วว่าเราตั้งใจเรียนนะ ถึงจะได้เป็น ถ้าเราอยากเป็นจริงๆ เราต้องไปด้วยตัวของเราเอง