หากใครอายุหลักเลข 2 ขึ้นไปคงจะทันช่วงที่วงขวัญใจวัยรุ่นอย่าง “ABnormal” กำลังมีเพลงฮิตที่มีท่อนฮุกติดหู “พูดไม่ค่อยเก่ง แต่รักหมดใจ” วันเวลาผ่านไปวง ABnormal เติบโตขึ้น ต่างคนต่างมีทางเดินของตัวเอง กวาง-ศิริศิลป์ โชติวิจิตร ก็ยังคงเดินหน้าต่อไปบนถนนเส้นเดิม
กับการเป็นศิลปินเดี่ยวสังกัดจีนี่ เร็คคอร์ดส ในชื่อว่า “กวาง ABnormal” ที่มาพร้อมสไตล์อิเล็กทรอนิกส์ร็อกที่เจ้าตัวหลงใหล ล่าสุดเขากำลังจะมีผลงานกับ PLAY 2 project ซึ่งเป็นการหยิบเพลงของศิลปินที่เป็นไอคอนแห่งยุค 90 มาปัดฝุ่นใหม่ในแบบฉบับของตัวเอง
อัลบั้ม PLAY 2 project กวาง ABnormal เลือกเพลงอะไรมาทำให้เราฟัง
พอรู้ว่าผมจะได้ทำโปรเจ็กต์นี้ ผมก็เริ่มคิดโจทย์ให้ตัวเองว่าอยากได้เพลงไทยป๊อปแดนซ์ที่ฟังแล้วรู้เลยว่าเป็นเพลงอะไร ประกอบกับผมเป็นเพื่อนกับวง Zaza ด้วย เลยคิดว่าถ้าเอาเพลงของเพื่อนมาทำก็น่าจะได้ความช่วยเหลือจากเค้า แล้วเพลง“เหรอ” ก็ปิ๊งเข้ามาในหัวพอดี ผมว่าเพลงนี้มันมีภาพจำของเพลงอยู่นะครับ พอพูดปุ๊บภาพในมิวสิกวิดีโอที่ 3 สาว Zaza ใส่ชุดแอร์โฮสเตสก็ลอยมาทันที อีกอย่างคำว่า “เหรอ” แค่คำเดียวคนก็จำได้ทันที และคิดว่าน่าจะเหมาะกับแนวอิเล็กทรอนิกส์ร็อกที่กำลังทำอยู่ด้วย จริงๆ แล้วผมก็มีอีก 2-3 เพลงอยู่ในหัวด้วยนะครับ อย่างเพลง “เลือกได้ไหม” หรือเพลง “นอนไม่หลับ” แต่ว่าเนื้อเพลงมันดูเด็กไปหน่อยสำหรับกวาง ก็เลยลงตัวที่เพลง “เหรอ” นี่ล่ะครับ
ในเวอร์ชั่นต้นฉบับ เพลงนี้มีการฟีเจอริ่งกันด้วย แล้วเวอร์ชั่นของกวางล่ะจะเป็นยังไง
เพลงนี้ต้นฉบับก็จะเป็น Zaza ฟีเจอริ่งกับ Buddha Bless แล้วก็มีท่อนแร็ปด้วย ซึ่งผมมองว่าการแร็ปมันคือคาแร็กเตอร์ส่วนตัวของศิลปินนั้นๆ แล้วของเดิมเค้าจะแร็ปแบบมีกลิ่นอายความเป็นเร็กเก้นิดนึง ผมก็เลยตัดสินใจแต่งท่อนแร็ปใหม่เองทั้งหมดเพื่อให้เข้ากับเพลง แล้วก็เข้ากับความเป็นร็อกด้วย ต่อมาก็ต้องคิดว่าจะเลือกใครมาร้องเพลงนี้ ตอนแรกผมก็นึกถึงนักร้องผู้หญิงซะส่วนใหญ่ แต่พอทำเดโม่เพลงนี้ออกมาแล้วก็รู้สึกว่าผมไม่ได้ต้องการนักร้องที่เป็นดิว่าหรือเสียงทรงพลังแบบสุดยอด แต่ต้องการนักร้องที่ตีบทแตก คือสามารถถ่ายทอดได้ว่าผู้หญิงคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่ ทำอะไรอยู่ ก็เลยเบนเข็มไปที่การหานักแสดงมาร้องแทน ทีนี้คอนเซ็ปต์เพลงนี้เป็นเพลงแดนซ์ ดังนั้นโจทย์ของผมก็คือต้องเป็นคนที่เต้นได้ด้วย ร้องได้ด้วย แล้วก็แอ็กติ้งได้ด้วย จนไปเจอกับน้องไอซ์ (ปรีชญา พงษ์ธนานิกร) นี่ล่ะครับที่รู้สึกว่าน่าจะเหมาะกับบทนี้ ผมก็เลยส่งเดโม่ให้เค้าฟัง เค้าก็สนใจนะครับ พอถึงวันที่เข้าห้องอัด อย่างที่บอกว่าเพลงนี้ต้องการนักร้องที่ตีบทแตก ดังนั้นการคุมร้องก็จะเหมือนการเป็นแอ็กติ้งโค้ช คือบอกน้องว่า “พาร์ตนี้อยากให้แรดกว่านี้หน่อย อยากให้ดูแอ๊วผู้ชายมากกว่านี้” (หัวเราะ) ผมว่าวิธีการทำงานของเค้าเหมือนตอนที่แสดงละคร คืออ่านบทแล้วสวมคาแร็กเตอร์ของผู้หญิงในเรื่อง ซึ่งน้องไอซ์ก็ทำได้ดีครับ เค้ามีแอ็กติ้งตอนร้องด้วย ท่าทาง น้ำเสียง การร้อง
ทุกอย่างออกมาโดยธรรมชาติ
คำว่า PLAY ในนิยามของกวางคืออะไร
คำว่า PLAY มันก็คือการละเล่น การที่ทำอะไรแล้วสนุก ทุกคนในโปรเจ็กต์ PLAY จะมีสีสันมากๆ พวกเราได้ทำอะไรที่ไม่เคยทำ อย่างเพลงที่แต่ละคนเลือกมาผมคิดว่าเป็นเพลงที่ติดอยู่ในหัวของทุกคน ประมาณว่าเคยได้ยินตอนเด็กๆ แต่ไม่มีโอกาสได้เล่น ไม่มีโอกาสได้นำเสนอ โปรเจ็กต์นี้เหมือนสร้างขึ้นมาให้พวกเราปลดปล่อย อยากทำอะไรก็แล้วแต่เลย เพราะฉะนั้นมันจะไม่เหมือนการทำงาน แต่มันคือการเล่น
นอกเหนือจากการเล่นดนตรีแล้วมักจะเล่นอะไร
ชอบเล่นอะไรแผลงๆ อย่างกีฬาเอ็กซ์ตรีมหรือกีฬาที่ต้องใช้ความเร็ว เช่น แข่งรถ แข่งมอเตอร์ไซค์ เพราะผมว่าสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ผมทำได้ดี เคยพยายามไปลองเล่นบาสเกตบอลแล้วมันไม่เวิร์ก สู้เค้าไม่ได้ แต่พอมาขับมอเตอร์ไซค์วิบาก เข้าป่าฝ่าดงแล้วพอจะไปวัดไปวาได้ ก็เลยเริ่มติดใจและพัฒนาด้านนี้มาเรื่อยๆ จนตอนนี้มั่นใจแล้วว่าทำได้ดี ไปแข่งมาก็มีถ้วยรางวัลด้วยนะครับแต่อุบัติเหตุนี่ก็เจอประจำเหมือนกัน ล่าสุดลงข่าวหน้าหนึ่งเลยว่ามอเตอร์ไซค์คว่ำหน้าบ้าน ศอกเปิดต้องเย็บ 4 เข็ม แล้วก็ สะโพกบวม เป็นการล้มที่ได้แผลแรงที่สุดตั้งแต่ขับมอเตอร์ไซค์มาหลายปีเลยครับ แต่รู้ตัวว่าประมาทเอง เพราะทุกครั้งเวลาที่ขับมอเตอร์ไซค์กวางจะใส่ชุดการ์ด หมวกกันน็อก ถุงมือ รองเท้าครบชุด แต่วันนั้นเป็นวันเดียวที่ไม่ได้ใส่ แล้วก็ดันเอามอเตอร์ไซค์วิบากขับออกไปซื้อของหน้าปากซอย ซึ่งยางมันหนา เพราะมันเอาไว้วิ่งบนดิน ไม่ใช่ยางที่ใช้สำหรับวิ่งบนถนน พอโดนน้ำเข้าไปก็เลยลื่นล้ม แต่ก็ไม่เข็ดครับ ผมว่าขับรถอะไรมันก็คว่ำได้ทั้งนั้นแหละถ้าเราประมาท
มีเรื่องอะไรที่ทำเล่นๆ แต่อยู่ๆ ก็ทำจริงจังขึ้นมาบ้างมั้ย
ดำน้ำครับ ไม่ได้ตั้งใจไปด้วย คือโดนเพื่อนบังคับไป แต่พอไปถึงแล้วสนุกดี พอเราดำลงไปในน้ำแล้วรู้สึกเหมือนตัวเองบินได้ อารมณ์แบบหนังซูเปอร์ฮีโร่อะไรทำนองนั้น หลังจากนั้นก็เริ่มติดใจ แล้วพอดีว่ามีโรงเรียนสอนดำน้ำอยู่ในหมู่บ้านด้วยครับ พอว่างเมื่อไหร่ผมก็จะไปเรียนดำน้ำ แต่ไม่ได้วางแผนไว้ตั้งแต่แรกว่าจะเรียนลงลึกถึงขนาดที่จะมาเป็นครูสอนดำน้ำได้เลยครับ แต่ช่วงนี้อาจจะไม่ค่อยได้ไปเพราะว่างานยุ่ง เพลงใหม่ของผมก็ใกล้จะออกเร็วๆ นี้แล้ว ซึ่งการดำน้ำต้องใช้เวลา ไปเที่ยวทีนึงต้องมี 5-6 วัน แล้วเราไม่อยากหยุดงานนานขนาดนั้น ก็อาจจะโฟกัสที่งานก่อน เรื่องดำน้ำเดี๋ยวก็มีเวลาไปเที่ยวอยู่แล้วแหละ เพราะว่าวิชาอยู่ในหัวเราแล้ว จะไปเมื่อไหร่ก็ได้
ถ้าไม่ได้เล่นดนตรีแล้ว คิดว่าตัวเองจะไปเลือกเล่นอะไร
อายุขนาดนี้ถ้าไปแข่งมอเตอร์ไซค์อาชีพนี่น่าจะพัง อยู่ได้ไม่ถึงตอนแก่แน่เลย งั้นก็คงต้องดำน้ำนะครับผม แต่ว่าถ้าตอนนี้ไม่ให้ร้องเพลงแล้วก็คงจะไปอยู่เกาะ เป็นครูสอนดำน้ำ เล่นดนตรีที่ผับริมชายหาดไปเรื่อยๆ ชิลล์ๆ คือไม่ให้เล่นดนตรีจริงจังแล้ว งั้นเราเล่นขำๆ ก็ได้