Until Tomorrow – วิน Sqweez Animal

          ‘Sqweez Animal’ คือคนดนตรีอินดี้กลุ่มแรกๆ ภายใต้สังกัดค่าย Spicy Disc ที่ร่วมงานกันมายาวนานกว่าสิบปี ถึงแม้วงจะมีการเปลี่ยนแปลงโดยสูญเสียสมาชิกคนสำคัญอย่างสิงห์ (ประชาธิป มุสิกพงศ์) และอีกพาร์ตหนึ่งของวิน ศิริวงศ์ จะต้องแบ่งเวลาให้กับการทำธุรกิจที่ต้องเข้ารับไม้ต่อจากครอบครัว แต่สิ่งเหล่านั้นกลับไม่เคยเป็นอุปสรรคของการทำวงเลยแม้แต่น้อย

          เพราะสิ่งสำคัญที่ทำให้พวกเขาไม่เคยจางหายไปไหนก็คือ ‘ดนตรี’ ที่พวกเขารัก

จำได้ไหมว่าช่วงแรกของค่าย Spicy Disc เป็นอย่างไร
          
บ้าน Spicy Disc ยังมีพนักงานไม่กี่คน ตอนนั้นเราเองก็ใหม่อยู่พอสมควร หลายๆ คนก็จะมาจากค่ายเพลงอื่นๆ กันมันเลยเป็นเหมือนการเริ่มต้นกันใหม่ เขาไม่รู้จักเรา เราก็ไม่รู้จักเขา เป็นช่วงที่ทีมงานปรับตัวเข้าหากัน ผมไม่มีความคาดหวังอะไรมาเลย เพราะไม่เคยมีค่ายเพลงมาก่อน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าโปรดิวเซอร์จะเข้ามาช่วยเราอย่างไร หรือ AR ต้องทำหน้าที่อะไร ก่อนหน้านี้เราก็ล้มลุกคลุกคลานมามาก เพลงที่ทำอยู่กล้าพูดว่าแทบจะ 99% ของค่ายเพลงทั้งหลายไม่เอาพวกผม แต่ Spicy Disc คือ 1% นั้น ถ้าไม่มี Spicy Disc วันนี้ Sqweez Animal ก็ไม่รู้จะไปจบที่ตรงไหนเหมือนกัน

ผ่านไป 12 ปีแล้ว Sqweez Animal มีความเปลี่ยนแปลงแค่ไหน
          หลายอย่างเหมือนเดิมครับ การทำเพลงทุกขั้นตอน ผมรู้สึกว่าตัวเองยังเป็นน้องใหม่อยู่ตลอดเวลา ไม่ได้รู้สึกว่าพิสูจน์ตัวเองไปแล้ว ทำเพลงมานานแล้ว หรือเป็นรุ่นใหญ่แล้ว ผมไม่รู้สึกอย่างนั้นเลย ยังรู้สึกว่าเป็นคนที่ลองผิดลองถูก แต่ความต้องการของตัวเองอาจจะชัดเจนขึ้นว่าชอบอะไร ไม่ชอบอะไร ทำแบบนี้แล้วคนฟังจะรู้สึกยังไงกับเรา จุดเปลี่ยนใหญ่ๆ เลยก็คงเป็นเรื่องที่สิงห์หายไป ทุกคนคงสัมผัสได้ทันที การที่ได้ฟังเพลงหรือได้เห็นคอนเสิร์ตก็จะรู้ว่าพวกเรามีการเปลี่ยนแปลง 

ในแง่ของการทำดนตรี กลิ่นอายเพลงของ Sqweez Animal ตอนนี้เป็นอย่างไร
          ทุกครั้งที่มีผลงานออกมาใหม่ก็จะไม่ค่อยซ้ำเหมือนเดิม แต่ว่าสิ่งที่เป็นกลิ่นอายของ Spicy Disc คือเราจะไม่ย่ำอยู่กับที่เราจะทดลองแนวดนตรีใหม่ ทำงานกับคนกลุ่มใหม่ๆ เหมือนเป็นการเดินทางไปในที่ที่เราไม่เคยไป เรามองการเล่นดนตรีเป็นแบบนั้น ที่ไหนที่เราเคยไปแล้วเราก็ไม่ค่อยอยากกลับไปซ้ำถึงแม้ว่ามันจะดี แต่เราก็อยากลองไปที่ใหม่ดูบ้าง บางที่คนอาจจะไม่ได้ชอบเหมือนกันกับเรา แต่เราก็อยากลองไปดู เราจะไปต่อเรื่อยๆ 

อย่างตัววินเองก็มีธุรกิจทางบ้านด้วย คิดว่าจะมีวันที่เลิกเล่นดนตรีไหม
          ธุรกิจไม่ใช่อุปสรรค อุปสรรคน่าจะเป็นเรื่องของสุขภาพร่างกายมากกว่า เพราะใจยังไงก็รักและอยากทำตลอดไป ทุกวันนี้การเล่นดนตรีก็ไม่ได้เห็นว่าเป็นอาชีพ แค่รู้สึกว่าเป็นกิจกรรมเป็นช่วงเวลาที่เราสนุกกับมัน ทำแล้วไม่รู้สึกเหนื่อยล้าหรือเหนื่อยหน่าย ทำในแบบที่คิดว่าดีที่สุด ทำในแบบที่เราเข้าใจ

พอเปลี่ยนมาทำงานบริหารเต็มตัว แบ่งเวลาให้กับเรื่องดนตรีแค่ไหน
          ธุรกิจก็คงต้องมาก่อนเพราะคนอื่นๆ ที่เข้ามาเกี่ยวข้องเขาเป็นมืออาชีพ ซึ่งเราจะมาเล่นๆ ไม่ได้ เราเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับการดูแลและให้บริการปั๊มน้ำมัน ทำงานกันตลอด 24 ชม. เพราะปั๊มน้ำมันเปิดทุกวัน บางปั๊มก็เปิด 24 ชม. ถ้าเขามีปัญหาเขาก็จะโทรมาที่บริษัท ซึ่งเรื่องคุณภาพและความปลอดภัยของลูกค้านั้นสำคัญมาก ในขณะที่ดนตรีเราก็สบายๆ ผมยังไม่ออกเพลงภายในปีสองปีนี้ก็ไม่มีใครเดือดร้อน เรื่องเพลงมันอยู่

ข้างในตัวผมตลอดเวลาอยู่แล้ว เราเลือกเวลาที่จะทำมันได้ เราสบายใจกับมัน อย่างน้อยเมื่อมีเวลาเราก็ทำด้วยความเต็มใจ เรารักมันจริงๆ ทำเพราะอยากทำ ไม่ได้ฝืน  

กดดันหรือเปล่า เพราะดูเป็นภาระหนักอยู่เหมือนกัน  
          ทุกวันนี้ก็ยังกดดันอยู่ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่สิงห์ไม่อยู่พอดี ผมก็รู้สึกว่าต้องหาสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจ เลยใช้การแบ่งเวลาออกจากการทำเพลงแล้วหันมาทำธุรกิจที่บ้านคุณพ่อก็อายุมากแล้ว และเราก็รู้สึกอยากมาดูแลธุรกิจต่อ ถ้าเราทำได้ก็น่าจะดี ถามว่ายากไหม ยากมากๆ เหมือนเอาปลาที่อยู่ในน้ำมาเดินบนบก (หัวเราะ) ทุกอย่างมันสลับขั้วกันหมด มุมที่ต้องเป็นผู้นำ เป็นหัวหน้าคน ดูแลชีวิตพนักงานหลายคนก็เป็นอีกมุมหนึ่งที่ยากเหมือนกัน

ถ้าให้เลือกเพลงมาหนึ่งเพลง ชอบเพลงไหนที่สุดของ Sqweez Animal
          น่าจะเป็น ‘คำบางคำ’ รู้สึกว่าเป็นเพลงพิเศษของ Sqweez Animal เพราะแสดงให้เห็นว่าพี่เต้งให้โอกาสกับพวกเรามากๆ เป็นเพลงที่ดีในแบบที่ลำพังถ้าวินกับสิงห์ทำเองคงจะไม่ออกมาเป็นแบบนี้ ‘คำบางคำ’ เลยกลายเป็นเพลงที่คนฟังส่วนใหญ่รักที่สุด เรารู้สึกว่ามันมีความหลังอะไรหลายๆ อย่างอยู่ในเพลงนี้ ซึ่งสุดท้ายมันก็กลายเป็นเพลงที่สมบูรณ์แบบ

ในวาระครบรอบ 14 ปีมีอยากบอกอะไรกับค่าย Spicy Disc
          ที่นี่เป็นบ้านหลังแรกและหลังเดียวของผม ผมก็ไม่รู้ว่าบ้านหลังอื่นเป็นยังไง ผมว่าบ้านหลังนี้อยู่สบายมากแล้ว ไม่ได้คิดว่าจะย้ายไปไหน ไม่ได้มีอะไรที่ไม่ชอบเลย ทุกคนอยู่กันอย่างน่ารักเป็นพี่เป็นน้อง มีจุดอ่อนจุดแข็งกันทุกคนรวมทั้งตัวผมเองด้วย เราเรียนรู้ที่จะปรับเข้าหากันได้แล้วอยู่ร่วมกันมาตั้งนานจนถึงทุกวันนี้ แล้วก็น่าจะมีต่อๆ ไป ขอบคุณสำหรับช่วงเวลาที่ผ่านมา ถ้าไม่มี Spicy Disc ก็คงน่าจะไม่มี Sqweez Animal