“ด้วยรักและผูกพัน” (2528) จากอัลบั้ม หาดทราย สายลม สองเรา เป็นบทเพลงแรกในชีวิตซูเปอร์สตาร์ของเมืองไทย “เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์” ที่อิ่มอุ่นไปด้วยความห่วงใยและความผูกพัน บวกกับเนื้อหาที่ยังคงความอมตะจนมาถึงทุกวันนี้ ทำให้เพลงนี้ไปโดนใจวงร็อกหัวมันอย่าง Potato จึงเลือกที่จะนำเพลงในตำนานเพลงนี้มาเรียบเรียงใหม่ใน PLAY 2 project ที่ยังคงความอบอุ่นไว้เช่นเดิมเพิ่มเติมด้วยความสนุกสนาน
วง Potato เลือกเพลงอะไรมาสำหรับ PLAY 2 project ครั้งนี้
ปั๊บ: เพลงที่วงเราเลือกกันมาเป็นเพลง “ด้วยรักและผูกพัน” ร้องโดยพี่เบิร์ด-ธงไชย แมคอินไตย์ จริงๆ วงตั้งใจจะเลือกอีกเพลง แต่วันหนึ่งผมนั่งรถไปบางแสน และในรถก็เปิดเพลงนี้ฟังแล้วก็เอะใจทำไมเพลงนี้ยังฟังดูใหม่
อยู่เลย ยังมีการส่งข้อความหากัน เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบันด้วย เหมือนเพลงนี้เพิ่งแต่งขึ้นมา ผมเลยกลับมา
คุยกับทางบริษัทเพื่อขอเปลี่ยนเพลงทันที
หั่ง: ตอนนั้นกำลังจะขึ้นเพลงแรกอยู่แล้ว ปั๊บขอมาเปลี่ยนเลย
ถามได้ไหมว่าเพลงก่อนหน้านี้คือเพลงอะไร
ปั๊บ: เพลง “รักคุณยิ่งกว่าใคร” ของพี่ก๊อต จักรพันธ์ เพลงมันก็ PLAY อยู่นะ ชุดที่ใส่มาวันนี้ก็เอาไปขึ้นเวที
ได้อยู่
หั่ง: เราเคยมีเอาท์ติ้งกัน พากันไปคาราโอเกะ แล้วพี่ปั๊บชอบเลือกเพลงนี้ พอได้มาทำโปรเจ็กต์ก็เลยเลือกเพลงนี้ แต่เป็นการเลือกแบบปุบปับที่เราไม่ได้มีเวลากันมาก จนกระทั่งพี่ปั๊บได้ไปฟังเพลง “ด้วยรักและผูกพัน”
ก็เลยมีการเปลี่ยนแปลงกัน
ปั๊บ: บอกไม่ถูกครับ น่าจะเป็นเรื่องโชคชะตา เราไม่ได้เลือกเพลงหรอกครับ เพลงเลือกเรา
มีความลังเลในการเลือกเพลงมั้ย
ปั๊บ: ไม่เชิงว่าลังเลนะครับ เราก็ตั้งใจว่าจะทำเพลงนี้ (รักคุณยิ่งกว่าใคร) มานานแล้ว
แต่ไม่ได้ทำกันสักที พอเปลี่ยนใจมาเป็นเพลง ด้วยรักและผูกพัน ทางวงก็ได้ฤกษ์ลงมือทำกันเลย
ด้วยรักและผูกพัน ในเวอร์ชั่นของ Potato มีความเปลี่ยนแปลงจากต้นฉบับยังไง
หั่ง: เหตุผลแรกที่ปั๊ปให้มาคือชอบเนื้อหา ไม่ได้มีเรื่องดนตรีเลย ด้วยความที่ต้นฉบับพี่เบิร์ดร้องเอาไว้เพราะมาก หวานๆ พอเราเอามารวมกับคำว่า PLAY เราต้องใส่ความสนุกและใส่จังหวะเข้าไป แต่ด้วยต้นฉบับมันแฝงไปด้วยความห่วงใยจริงๆ เราก็ไม่อยากไปขืนเพลงต้นฉบับ เราแค่ขยับจังหวะขึ้นมา 2 บีต เพื่อให้เพลงมันสนุกขึ้น
กานต์: มีการอัพตัวบีตของกลองขึ้นมา โดยของเดิมจังหวะกลองเป็นกลองชิลล์มากๆ พอมาถึงมือเรา เราก็ใส่ลูกเล่นเข้าไป จนผมต้องแอบไปฝึกคนเดียว มีหลายท่อนที่ฝืนความรู้สึกผมเหมือนกัน มือกับเท้ามันขัดกัน แอบหืดขึ้นคออยู่
หั่ง: ถ้าเป็นภาษานักดนตรีเค้าว่าผิดกลิ่น ปกติกานต์จะตีกลองไวมาก แค่ 1-2 เทก
ก็ผ่านฉลุย
กานต์: จังหวะมันไม่ได้เร็วมาก แล้วเราไปดึงให้ช้าลงในบางท่อน ฝืนความรู้สึกอีกแล้ว
หั่ง: แล้ววันที่เราไปอัดเพลงกัน พอดีมีน้องๆ นักดนตรีมาใช้ห้องอัดด้วย ก็ขอมาดูพี่กานต์อัดหน่อย มีเสียงลือว่าอัดเร็ว อัดไว
ปั๊บ: แต่วันนั้นคะมำทุกเทป
โอม: วันนั้นนับได้ 3 ชั่วโมง (หัวเราะทั้งวง)
ตอนนี้อยู่มือแล้วใช่มั้ย
กานต์: เรียบร้อยแล้วครับ เข้ามือแล้ว
ต้นฉบับเพลงนี้ร้องด้วยอารมณ์ความห่วงใย แล้วเวอร์ชั่นนี้ล่ะยังคงอารมณ์ห่วงใยเอาไว้รึเปล่า
หั่ง: ปั๊บเป็นนักร้องที่ร้องเพลงแล้วทำการบ้านเรื่องของอารมณ์มาก่อน ไม่ใช่สายเทคนิคเท่าไหร่
ใส่เรื่องของอารมณ์มากไปจนเดโม่แรกที่ปล่อยออกมามีคอมเมนต์จากทางผู้ฟังว่ามันเบาไปนะ มันยังไม่ค่อย PLAY เท่าไหร่
ปั๊บ: มีเสียงตอบกลับมาว่าห่วงใยเกินไป เพลงร้องยากเหมือนกันนะ เลยต้องกลับมาทำการบ้านใหม่ ด้วยความที่เพลงไม่มีจังหวะที่โดดขึ้นโดดลง ไม่มีฮุกที่ชัดเจน เพลงจะเรียบๆ เรื่อยๆ แต่จะทำยังไงให้ตรึงคนฟังไว้ได้จนจบเพลง
หั่ง: โครงสร้างของเพลงในยุคก่อตั้งของแกรมมี่จะยังไม่มีฮุก จะมีความชิลล์มาก ร้องตามไปได้เรื่อยๆ ก็ยอมรับว่าเป็นเทคนิคที่ Potato ยังไม่เคยทำมาก่อน มีความสนุกในการทำงานครับ
เพลงนี้ถูกนำมาทำใหม่หลายรอบแล้ว รู้สึกกดดันมั้ย
หั่ง: เออ เพลงนี้ก็มีหลายเวอร์ชั่นจริงๆ นะ พอปั๊บส่งเพลงนี้มาให้ ผมก็ไปรีเสิร์ชมาก็ได้รู้ว่าเพลงนี้เป็นซิงเกิลแรกของพี่เบิร์ด แอบกดดันทันทีเลย
โอม: ก็พอรู้มาอยู่ครับ มีแอบกดดันเล็กน้อย แต่เราเลือกเพลงด้วยความจริงใจนะ
พูดถึงคำว่า PLAY แล้วนึกถึงอะไร
ปั๊บ: ผมนึกถึง PlayStation 4 ที่บ้าน
กานต์: เหมือนพี่ปั๊บครับ
โอม: วิทยุเทป ปุ่มกด ก๊อกๆ แก๊กๆ
หั่ง: ผมคิดถึงความสนุก ถ้าคิดจะเล่นแล้วก็ต้องเล่นให้สุด ให้สนุก
นอกจากเล่นดนตรีแล้ว ยังมีกิจกรรมหลังเวทีคืออะไรบ้าง
หั่ง: กิจกรรมร่วมกันของโอมกับผมก็จะมีออกไปปาร์ตี้บ้าง ส่วนของปั๊บจะไปนั่งสมาธิ ส่วนของกานต์กับผมอยู่หมู่บ้านเดียวกันก็จะมีพาหมาไปเดินเล่น
โอม: ส่วนกานต์กับผมจะไปมาสก์หน้า
ปั๊บ: พี่กานต์กับผมจะไปถ่ายรูป กิจกรรมของผมกับพี่หั่งก็จะเรื่องปัญหาและงาน คุยเรื่องทำเพลง ถ้าคุยกับโอมก็จะคุยเรื่องเงิน เพราะโอมเป็นเหรัญญิกวง “เออ เดือนนี้เราขอเบิกเงินมาโปะตรงนี้หน่อย”
หั่ง: เราได้ลองทำกิจกรรมร่วมกันหลายอย่างแล้ว อย่างตอนที่ทำเพลงก็มีไอเดียไปเช่าบ้านกันเดือนนึงเพื่อจะได้ทำเพลงอยู่ด้วยกัน ก็จะมีความสนุกซุกซ่อนอยู่
โอม: เป็นการห่างบ้านเดือนนึงที่มันมาก แต่ก็ไม่ได้ไปแบบนี้บ่อยๆ นะ เฉพาะช่วงทำอัลบั้ม ทำเพลง เป็นการสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดีนะ
มีเรื่องอะไรที่ทำเล่นๆ แต่พอเอาเข้าจริงๆ ก็กลายเป็นเรื่องจริงจังขึ้นมาบ้างมั้ย
โอม: เลี้ยงแมว ตอนแรกกะว่าจะเลี้ยงเล่นๆ แต่ไปๆ มาๆ ก็มี 7 ตัว ยังไม่รวมอีก 4-5 ตัวที่มารอหน้าบ้าน ตอนแรกผมแพ้ขนแมวนะ ไอ จาม แต่เดี๋ยวนี้ผมนอนซุกกับแมวบนโซฟาแล้ว
ปั๊บ: ของผมเป็นเรื่องถ่ายรูป ตอนแรกกะว่าจะลองเล่นๆ ถ่ายไปถ่ายมาก็จริงจังขึ้น ตั้งใจถ่ายเกินไป จากถ่ายสนุกๆ กลายมาเป็นจับผิดรูปของตัวเองแล้ว
เสียหายไปเยอะมั้ย
(หัวเราะทั้งวง)
ปั๊บ: ไม่เยอะนะ รวมบอดี้ เลนส์แล้วจบที่แสนกว่าบาท ผมก็รู้แล้วว่าผมชอบเลนส์ระยะไหน เมื่อก่อนผมมีครบทุกระยะเลย แล้วก็มีคนยืมไป สุดท้ายเหลือตัวเดียวที่ใช้ประจำ
โอม: แสนกว่านี่คือที่เหลืออยู่นะ ยังไม่รวมที่ให้คนอื่นไปอีก
ปั๊บ: (เสียงเศร้าๆ) เออใช่ ขายของไม่เป็น
แล้วคนอื่นล่ะ มีเรื่องอะไรที่ตอนแรกคิดว่าจะทำเล่นๆ แต่ไปๆ มาๆ ก็จริงจังบ้างมั้ย
กานต์: ของผมก็เรื่องกีฬาแล้วกัน เป็นเวกบอร์ด พี่หั่งพาไปรู้จักเพื่อนเขาที่เปิดบึงเอาไว้เล่น ไปเล่นครั้งแรกนี่ขึ้นบอร์ดได้เลย พอรู้ตัวอีกทีก็ไปแข่งแล้ว
หั่ง: ของผมก็เรื่องลูก อยากจะลองเล่นๆ ตั้งใจแค่เพลินๆ ดันติดจริง แฟนก็บอกไม่ติดหรอก ทีนี้ก็ยาวเลย ตอนนี้ก็ 10 ขวบแล้ว
วง Potato ถ้าไม่เล่นดนตรีแล้วจะเล่นอะไร
ทั้งวง: คำถามยากมาก เป็นคำถามที่คิดกันมานานแล้วนะ แต่ก็ยังคิดไม่ออก
ปั๊บ: พวกผมอยู่ด้วยกันโดยไม่มีแผน 2 เลย โชคดีที่ว่าเราเชื่อว่าถ้าเราทำแผน 1 อย่างจริงจังแบบถวายชีวิต เราจะไม่ต้องคิดแผน 2 เลย อยากจะตอบให้ได้นะ แต่มันไม่มีจริง
โอม: มันก็มีไม่กี่อย่างหรอกครับที่เด็กๆ ชอบเล่นแล้วโตมามันเป็นอาชีพได้ เคยนั่งคิดอยู่กับตัวเอง ก็คิดไม่ออก ชีวิตผมมีแต่ดนตรีจริงๆ
หั่ง: ดนตรีเป็นอาชีพที่ดูเหมือนเล่นๆ แต่มันเป็นอาชีพได้ ดนตรีช่วยชีวิตผมได้ แม้กระทั่งตอนเรียน
ผมก็ไม่เคยคิดว่าจบมาแล้วจะไปทำอะไรนอกจากนักดนตรี
กานต์: ผมอาจเปิดบึงเวกบอร์ด ล้อเล่นๆ
ปั๊บ: เปิดร้านอาหารที่ญี่ปุ่นดีกว่า