ถือเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกที่มหกรรมการวิ่งเต็มไปด้วยผู้หญิงล้วน ! และมีจำนวนกว่า 2,215 คน กับงาน NikeWomen Runs Bangkok ที่สร้างสรรค์ขึ้นมาเพื่อประสบการณ์สุดพิเศษ
สำหรับผู้หญิงเท่านั้น เฉลิมฉลองความแข็งแกร่งและอิสรภาพของผู้หญิงผ่านการวิ่งในงานกรุงเทพมาราธอนอย่างยิ่งใหญ่ เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวเองและสังคมใกล้ตัวของพวกเธอสิ่งที่พิเศษนอกเหนือไปจากการรวมตัวกันของผู้หญิงกว่า 2,215 คน ที่ทำให้งานครั้งนี้ไม่เหมือนงานครั้งไหนๆ ก็คือ พื้นที่สุดพิเศษสำหรับสาวๆ นักวิ่งในทีม NikeWomen Runs Bangkok นั้น มีบริการพิเศษมากมายจากไนกี้คอยให้บริการนักวิ่ง อาทิ บริการฝากกระเป๋าและสัมภาระ ห้องแต่งตัวเพื่อเช็คความเรียบร้อยตั้งแต่หัวจรดเท้า จุดบริการชาร์จสมาร์ทโฟนให้ไม่พลาดทุกการติดต่อ รวมถึงมอบเสื้อเพื่อเป็นที่ระลึกสำหรับผู้ที่วิ่งเข้าเส้นชัยอีกด้วย ทั้งนี้ บรรยากาศภายใน Nike+ Lounge ยังคอยกระตุ้นและปลุกพลังสาวๆ โดยดีเจที่คัดสรรเพลย์ลิสต์มันๆ ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 18 พฤศจิกายน จนกระทั่งหลังเข้าเส้นชัย ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีอีกหนึ่งไฮไลท์ให้สาวๆ นักวิ่งที่ชีวิตติดโซเชี่ยลได้ถ่ายภาพกับสถิติการวิ่งของตัวเองเพื่ออวดเพื่อนๆ และเอาใจสาวๆ ด้วยบริการนวดเท้าเพื่อสร้างความผ่อนคลายหลังวิ่ง พร้อมด้วยรถห้องน้ำสำหรับนักวิ่งหญิงเท่านั้น นอกจากพื้นที่พิเศษอย่าง Nike+ Lounge แล้ว ไนกี้ยังเสริมทัพนักวิ่งด้วย เพเซอร์กว่า 65 คน ร่วมออกวิ่งเคียงข้างและช่วยผลักดันสาวๆ ให้ถึงเส้นชัยอีกด้วย
หนึ่งในบรรดานักวิ่ง 2215 คนของทีม NikeWomen
Runs Bangkok คือ ก้อย รัชวิน วงศ์วิริยะ ซึ่งเป็นแบรนด์แอมบาสซาเดอร์ของไนกี้
ได้ร่วมท้าทายขีดจำกัดของตัวเองในครั้งนี้ไปพร้อมกับสาวๆ ในระยะฮาล์ฟมาราธอน
โดยก้อยสามารถวิ่งจบที่เวลา 02:04:00 ชม.
ซึ่งเธอพอใจกับสถิติในครั้งนี้เป็นอย่างมากหลังจากการฝึกซ้อมกับ NRC
และ NTC Live Sessions มาเป็นระยะเวลากว่า
8 สัปดาห์ “วันนี้ก้อยรับรู้ได้ถึงพลังที่ยิ่งใหญ่มากๆ จากสาวๆ
ไนกี้วีเม่นทุกคนค่ะ
การวิ่งครั้งนี้พิสูจน์ให้เห็นเลยว่าเมื่อผู้หญิงรวมตัวกันเพื่อร่วมทำอะไรดีๆ
บางอย่าง
มันสามารถเปลี่ยนเราและเปลี่ยนสังคมรอบด้านของเราให้ดีและมีคุณภาพยิ่งขึ้นค่ะ”
นอกเหนือจากก้อย รัชวินแล้ว ยังมี NikeWomen คนสำคัญอีก 2 ท่านที่ร่วมออกมาทลายขีดจำกัดของตนเอง ได้แก่ “โอซา แวง” นักแสดงสาวสายฟิตเนสที่ชื่นชอบการเทรนนิ่งเป็นชีวิตจิตใจ โดยการวิ่งครั้งนี้ถือเป็นการวิ่ง 5 กิโลเมตรครั้งแรกของเธอ พร้อมด้วยสาวมากความสามารถอย่าง “ผ้าป่าน สิริมา ไชยปรีชาวิทย์” ที่ท้าทายขีดจำกัดของตัวเองด้วยการวิ่งให้ไกลกว่าเดิมกับระยะฮาล์ฟมาราธอนครั้งแรก
นี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นที่เริ่มทำให้โลกหันมาฟังเสียงของผู้หญิง ว่าพวกเธอเปี่ยมด้วยศักยภาพที่สามารถจะสร้างการเปลี่ยนแปลงแก่ตนเองและโดยรอบได้ผ่านการเล่นกีฬา กิจกรรมในครั้งนี้คือการส่งต่อพลังจากผู้หญิง 2,215 คน ไปสู่ผู้หญิงทั่วประเทศเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงออกมาสร้างการเปลี่ยนแปลงตนเองผ่านการเล่นกีฬาและนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงสังคมรอบด้านของพวกเธอให้ดียิ่งขึ้นต่อไป

