ขอบคุณเรื่องร้ายๆในอดีตที่ทำให้วันนี้เราแข็งแกร่ง – จิงจิง วริศรา ยู

Written by  
02.08.18 683 views
Written by  

02.08.18 683 views

“กระดูกเดินได้” “จิ้งจก” “เสาไฟฟ้า” เมื่อการถูก Bully ในวัยเด็กของ “จิงจิง-วริศรา ยู” กลายมาเป็นแรงผลักดันให้เธอก้าวขึ้นมาเป็นนางแบบอินเตอร์ อะไรที่ทำให้วันนี้เธอแข็งแกร่งได้ และมาฟังเรื่องราวความรักของเธอ

“ เราเป็นคนร้องไห้แล้วชอบเก็บไว้กับตัวเอง พอโตขึ้น ด้วยลุคเราเป็นอย่างนี้ ทุกคนเลยคิดว่าเราแรง ซึ่งพอมันเป็นแบบนี้ มันเลยทำให้เราเข้มแข็งขึ้นและใครไม่กล้าแกล้งเรา ”
— จิงจิง-วริศรา ยู



อะไรที่ทำให้ไม่มั่นใจในตัวเอง

 
    เอาจริงๆ นะ ทุกวันนี้เราก็ยังมีความไม่มั่นใจในตัวเองเยอะมาก ใครที่อยู่รอบข้างจะเห็นชัดมาก เพราะเราจะคอยถามเสมอว่าทำแบบนี้โอเคไหม อย่างนี้ดีรึเปล่า เป็นคนคิดมาก กลัวจะทำออกมาไม่ดี กลัวเสียงวิจารณ์ เพราะเป็นคนที่แคร์ทุกอย่าง จนแทบไม่แคร์ตัวเองเลย อย่างการทำงานก็กลัวจะแสดงออกมาไม่ดี

สิ่งที่รุนแรงที่สุดที่ทำให้ขาดความมั่นใจคืออะไร

 
    จุดที่ทำให้กลายเป็นคนไม่มีความมั่นใจในตัวเองเลย คือช่วงที่เราอยู่ในกลุ่มเพื่อนผู้หญิงเยอะๆ เราเรียนโรงเรียนหญิงล้วนมา เราเป็นเด็กกิจกรรม เพราะชอบทำกิจกรรม ชอบทำนู่นนี่ ชอบเต้น แล้วด้วยความที่ผู้หญิงอยู่กันจำนวนมาก การถูกหมั่นไส้หรืออิจฉามันเกิดขึ้นได้ ถูกคนเกลียด พอย้ายไปโรงเรียนสหฯ ก็ยังถูกเกลียดมากกว่าเดิมอีกจนร้องไห้ไม่อยากไปโรงเรียน จากเด็กโรงเรียนหญิงล้วนมาเจอนักเรียนคละกัน แล้วช่วงนั้นโทรศัพท์บีบีกำลังฮิต มีรุ่นพี่แอดมา ทุกคนแอดคุยกัน เราไม่ได้คิดอะไร รับแอด แล้วก็คุย ปรากฏว่าบางคนมีแฟนแล้วแต่แอดมาคุยกับเรา เราไม่รู้ ทีนี้เราก็ถูกหมั่นไส้ จนเราทำอะไรก็ไม่มั่นใจ เคยโดนดักหาเรื่อง แต่เรารอดมาได้เพราะดวงตลอด เช่น เราออกจากโรงเรียนก่อนเพื่อไปทำงานพิธีกรรายการหนึ่ง มารู้เพราะเพื่อนบีบีมาบอก (ยิ้ม) 

เป็นคนขี้อายแต่เป็นเด็กกิจกรรมเหรอ

 
    เราเป็นเด็กขี้อายที่ชอบทำกิจกรรม เราชอบการแสดง แต่ไม่กล้าแสดงออก

มันเป็นอย่างไร

 
    เราชอบเต้นตั้งแต่เด็ก แม่ก็ส่งไปเรียนที่ Superstar Academy โรงเรียนเลิกก็ไปเรียนเต้นต่อ เพราะเต้นเป็น พอมีงานโรงเรียนที่ต้องรำ ต้องเต้น เราก็ได้ทำแต่ทุกครั้งที่ขึ้นเวทีคือเราก็ยังรู้สึกอาย 

คำว่าน่าเกลียดนี่มาจากส่องกระจกหรือโดนคำพูดเชิง Bully จากคนอื่น

 
    ทั้ง 2 อย่างเลยค่ะ ทุกคนเรียกเราว่าเอเลี่ยนบ้าง จิ้งจก เสาไฟฟ้า ไม้เสียบผี เพราะโดนอะไรอย่างนี้เยอะด้วยเลยยิ่งทำให้ไม่มั่นใจในตัวเอง สูงร้อยเจ็ดสิบกว่า หนัก 42 เราสูงกว่าเพื่อนมากก็เลยเดินหลังค่อม แต่ด้วยความสูงของเราก็เลยได้เรียนเดินแบบด้วย เรียนเล่นๆ พร้อมเรียนเต้น เรียนกีตาร์ จนอายุ 15  ปี พอดีคุณครูที่ Superstar Academy บอกแม่ว่าให้พาเราไปลองประกวดไทยซูเปอร์โมเดลพอตัดสินใจว่าจะลองดู ตอนเช้าแม่พาไปทำบัตรประชาชนแล้วไปสมัครเลย (หัวเราะ)

เข้าสู่วงการนางแบบก็เป็นการอยู่รวมกันของผู้หญิง กลัวบ้างไหม

 
    ทุกคนชอบคิดแบบนั้นน่าจะเพราะดูละครมาเยอะ แบบว่าต้องแอบเอาตะปูมาใส่ในรองเท้า (หัวเราะ) ความจริงแล้วทุกคนคือคนปกติค่ะ เราว่าวงการนางแบบไม่ได้มีการแข่งขันมากมายขนาดนั้น (วงการนางแบบกับโรงเรียนอะไรน่ากลัวกว่ากัน?) ในโรงเรียนค่ะ เราโดนหนักมาก แรงที่สุดคือบ้วนน้ำแข็งไสใส่รองเท้า ตะโกนด่า ปาขนมใส่ แต่เราไม่เคยตอบโต้ กลับบ้านไปนั่งร้องไห้ เจอมาแบบนี้มันทำให้ชีวิตเราเข้มแข็งขึ้นค่ะ ชีวิตการทำงานเราก็เข้มแข็งขึ้น