
แม้จะอายุเพียง 17 ปี แต่ในฐานะพี่คนโตของบ้านวรรธนะสิน เจ้านาย จินเจษฎ์ วรรธนะสิน มีความเป็นผู้ใหญ่เกินตัว ทั้งในฐานะที่ปรึกษาของแม่ปิ่น เก็จมณี และเมื่อเข้ามาทำงานในวงการบันเทิงในฐานะศิลปินเดี่ยว และมีพ่อและแม่เป็นนักร้องที่ใครๆ ก็รู้จักกันทั้งประเทศ มีซิงเกิลฮิตอย่าง 'คนละชั้น' แม้ประสบการณ์การทำงานจะยังไม่มากนัก แต่หนุ่มน้อยคนนี้กลับเต็มไปด้วยความคิดและมุมมองไม่ต่างจากผู้ใหญ่หรือศิลปินที่อยู่ในวงการมานาน มาฟังประสบการณ์การทำงานในหนึ่งปีที่ผ่านมาของเจ้านายกัน แล้วคุณจะตกหลุมรักหนุ่มคนนี้มากขึ้นไปอีก
ล่าสุดเป็นศิลปินเต็มตัวแล้ว เป็นยังไงบ้าง
ครับ เพิ่งเริ่มได้ปีกว่าเองครับ ก็ยังต้องเรียนรู้อีกเยอะ ที่ผ่านมาเราได้เจอคนใหม่ๆ ได้เจอแฟนคลับกลุ่มใหม่ ไปสถานที่ใหม่ๆ ที่ยังไม่เคยไป ก็เป็นอะไรที่แฮปปี้มากครับ เพราะเราก็รักในการทำเพลง รักในเสียงดนตรีอยู่แล้ว เพราะฉะนั้นมันก็เป็นความสุขอย่างหนึ่งในสายงานนี้ เรายังมีเวลาพัฒนาตัวเองอีกเยอะ เราไม่สามารถพูดได้ว่าตอนนี้เราเต็มร้อยแล้วนะ เราพร้อมแล้ว เพราะเรายังมีจุดที่ต้องปรับปรุงอีกเยอะมาก ยังต้องเจออะไรอีกเยอะครับ เพราะฉะนั้นเรายังถือว่ามีเวลา
การเป็นศิลปินทำให้รู้สึกเครียดหรือกดดันกับเรื่องอะไรบ้างไหม
ไม่กดดัน ไม่เครียดเลยครับ แต่ออกแนวลุ้นมากกว่า ลุ้นเรื่องราวที่เราจะพรีเซ็นต์ออกไปว่าแฟนๆ จะชอบไหม หรือคนจะคิดอย่างไร ลุ้น แต่ไม่เคยเครียดครับ
เคยคิดภาพตัวเองยืนอยู่บนเวทีคอนเสิร์ตของตัวเองไหม
เคยครับ นายเชื่อว่าศิลปินทุกคนคิด แต่ว่ามันยังมีเวลาอีกเยอะมากที่จะคิดเรื่องนั้น
ถ้ามีคอนเสิร์ตเดี่ยวของตัวเอง จินตนาการไว้ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตแบบไหน
คือเราชอบเอ็นเตอร์เทนอยู่แล้ว ถ้ารู้จักนายจริงๆ นะ นายเป็นคนพูดจากวนๆ เป็นคนเฟรนด์ลี่ ก็คงเป็นคอนเสิร์ตที่ได้เล่นกับคนดูมั้งครับ แล้วก็ทำโชว์ให้ทุกคนได้สนุกไปกับมัน ไม่ใช่ว่าเราทำโชว์แล้วเขาแค่นั่งมอง นายอยากให้ทุกคนเป็นก้อนเดียวกัน สนุกไปด้วยกันอะไรอย่างนี้มากกว่า
แล้วถ้ามีคอนเสิร์ตใหญ่เป็นของตัวเองจริงๆ เจ้าขุนกับเจ้าสมุทรจะได้เป็นแขกรับเชิญไหม
ดูก่อนครับผม (หัวเราะ) ได้ขึ้นอยู่แล้วๆ คือถ้าเขาอยากขึ้นเราก็ให้เขาขึ้นอยู่แล้วครับ เรามาเป็นครอบครัวตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
พอเริ่มทำเพลงไปสักพัก เห็นตัวตนของตัวเองชัดขึ้นไหม
ครับ คือเราชอบทางนี้ แล้วพอเราก็เห็นผลตอบรับจากการที่เราไปทัวร์ ไปมีตแอนด์กรี๊ด หรือในโซเชียลมีเดียต่างๆ นายว่าตามมาตรฐานแล้วเราทำได้ ถ้าเราอยากทำเราทำได้แน่นอน
ซิงเกิ้ลล่าสุด ‘แอบบอกรัก’ มีที่มาที่ไปยังไง
ก็มี Meyou กับพี่ BossaOnTheBeat มาช่วยกันครับ ใช้เวลาประมาณหนึ่งอาทิตย์ครับ กว่าจะได้ออกมา ตอนนั้นอยู่อังกฤษด้วย ก็นั่งคุยกับมิว เราก็บรีฟเรื่องราวของเราไป บอกไปว่าอยากได้เป็นความรู้สึกของการแอบบอกรัก แล้วมิวเขาก็ทำออกมาเป็นประมาณนี้ ก็ปรับนู่นปรับนี่ไปจนได้ออกมาเป็นก้อนนี้ ซึ่งเราว่ามันดีครับ
มีบทบาทในเพลงแค่ไหน
ก็มีบทบาทมากขึ้นครับ แต่เรายังไม่สามารถทำทุกอย่างได้เอง ด้วยเวลา ด้วยความที่เรายังไม่มีประสบการณ์ขนาดนั้น เราเชื่อว่ามันยังไม่ดีที่สุด เราอยากทำให้มันดีกว่านี้
เจ้านายสนิทกับแม่แค่ไหน
สนิทครับ คือแม่จะมีสองบทบาทคือเพื่อนกับแม่ ในส่วนที่เป็นเพื่อนคือเรากับแม่คุยกันได้ทุกเรื่อง เราปรึกษากันได้ทุกเรื่องเลย แม่เขามักจะให้คำปรึกษาในมุมที่เราต้องการได้ แต่ไม่เครียดนะครับ ทำตัวสบายๆ อย่างเพื่อนบางคนเขาไม่กล้าพูด ไม่กล้าปรึกษาเรื่องต่างๆ กับพ่อแม่แล้วอาจจะต้องตัดสินใจเองจนเลือกทางผิดไปบ้าง ถ้าเราคุยกับพ่อแม่เหมือนเพื่อนได้มันก็จะสบายใจ สามารถเปิดอกเปิดใจได้มากกว่า อีกมุมหนึ่งของแม่ก็คือเป็นแม่ที่คอยสอนว่าสิ่งนี้ดีหรือไม่ดี เขาก็จะสอนว่าควรจะทำแบบนี้นะ แนะนำเราแล้วก็ปล่อยให้เราไปเผชิญเองครับ
หวงแม่ไหม
หวงครับ หวงมาก
เคยดุแม่ไหม
ไม่เคยดุครับ จะมีเรื่องการแต่งตัวบ้าง (หัวเราะ) ส่วนใหญ่ก็จะเป็นพ่อด้วยที่ช่วยกันปราม
มีงานเพลงส่วนไหนที่ได้แรงบันดาลใจมาจากแม่บ้างไหม
มีครับ เยอะแยะครับ คุณแม่จะให้คำแนะนำตลอด ไม่ว่าจะไปถ่ายเอ็มวีด้วยกัน ออกงาน แม่เขาจะสอนวิธีพูดคุยกับคนครับ แม่ก็จะสอนว่าที่สำคัญที่สุดคือเราต้องเป็นตัวของตัวเอง ต้องไม่หลงลืมตัว
เรื่องไหนที่เราเห็นแม่เป็นตัวอย่าง
เรื่องความใจเย็นครับ คือถ้านายใจร้อนก็ร้อน ซึ่งนายว่าทุกคนเป็นนะครับ แต่ถ้าเราใจร้อนแม่ก็จะสอนให้นิ่งๆ ไว้ (หัวเราะ)
ชีวิตวัย 17 ปีของเจ้านายเป็นยังไงบ้าง
อาจจะไม่เหมือนคนอื่นเขา ด้วยความที่เราเลือกมาทางนี้แล้ว เรากลายเป็นที่จับจ้องของทุกคน ก็อาจจะต้องประพฤติตัวให้เป็นแบบอย่างกับคนอื่นมากกว่าเด็กวัยเดียวกันคนอื่นๆ ครับ เราก็ต้องระวังนิดนึงเวลาจะทำอะไร แต่ว่านายก็เหมือนเด็กคนอื่นๆ แหละ เราก็ไปเที่ยวกับเพื่อน ไปเที่ยวกับครอบครัว มีความรักวัยเด็ก ก็เป็นธรรมดาครับ มันมีแค่ว่าเราต้องระวังนิดนึงตรงที่เราต้องเป็นตัวอย่างให้กับเด็กอีกหลายๆ คน
กลัวไหมว่าความสนุกในช่วงชีวิตวัยรุ่นของเรามันจะหายไป
ไม่ครับ คือเราต้องวางตัวให้เป็นตัวอย่างที่ดี แล้วก็ทำตัวให้ถูกที่ถูกเวลาครับ