คลายหิว-พักขา 3 ร้านอาหารรอบศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

          สำหรับคนที่ชอบเดินเล่นงานแฟร์หรือล่าสุดกับงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ คงจะคุ้นเคยกับศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ แต่ถ้าพูดถึงร้านอาหาร เราอาจจะยังนึกไม่ค่อยออกว่า ในละแวกนั้นเราจะสามารถหาของกินอร่อยๆ หรือที่นั่งชิลล์ได้ที่ไหนบ้าง HAMBURGER ได้เลือก 3 ร้านเด็ดมาแนะนำให้ได้นั่งคลายเมื่อยและคลายหิวกัน 

 

 

The Station Cafe & Meal
          เริ่มต้นด้วยคาเฟ่ที่พร้อมเสิร์ฟอาหารและกาแฟต้อนรับกันตั้งแต่ 7 โมงเช้า ให้เราอิ่มท้องไปกับเมนูต่างๆ ที่ทางเชฟครีเอตขึ้นมาอย่างตั้งใจ ไม่ว่าจะเป็นราเมงข้าวซอย (149 บาท) นำเส้นราเมงสไตล์ญี่ปุ่นมาผสมเข้ากับซุปข้าวซอยหรือเมนูไข่ง่ายๆ ที่หยิบนำอาหารประจำชาติของประเทศเกาหลีใต้มาใส่เป็นท็อปปิ้งอย่างข้าวไข่ข้นหมูกิมจิ (169 บาท) หรือเติมความสดชื่นด้วยเมนูเครื่องดื่ม เช่น เฉาก๊วยชาไทย (80 บาท) อัญชัญนมสด (70 บาท) ก็ดีอยู่ไม่น้อย 

 
 

WHERE: ติดกับศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ประตูทางออกที่ 3 
ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-23.00 น.
เบอร์โทรศัพท์ 0-2203-4021-2

Retro Live Cafe 
          มาต่อมื้อกลางวันกันที่ Retro Live Café ให้บริการบุฟเฟ่ต์นานาชาติมื้อกลางวัน ด้วยความที่ร้านนี้รับจัดงานอีเวนต์ต่างๆ ทำให้มีพื้นที่ขนาดใหญ่ สามารถบรรจุคนได้เต็มที่ถึง 1,500 กว่าคน แบ่งพื้นที่เป็น 2 ส่วน ด้านนอกจำลองเป็นสวนหย่อมหลังบ้านปูด้วยหญ้าเทียมสีเขียว ส่วนด้านในเป็นสเตชั่นอาหารหลากหลายประเภท โดยทุกๆ เดือนจะมีเมนูอาหารพิเศษที่เปลี่ยนไป แต่ถ้าใครอยากกินเมนูล็อบสเตอร์เทอร์มิดอร์ (990 บาท) และทะเลย่างมหาสมุทร (1,999 บาท) ต้องสั่งแยกมากิน

 

WHERE: ติดกับศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ประตูทางออกที่ 4 
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-14.30 น.
เบอร์โทรศัพท์ 0-2203-4021-2

Lake ‘N Park 
          ด้วยการออกแบบโถงเพดานสูงและกระจกใสรอบด้าน ทำให้มองเห็นวิวทิวทัศน์ของทะเลสาบและสวนสาธารณะเบญจกิติ ช่วยให้รู้สึกสบายตา สำหรับเมนูอาหารของที่นี่ไม่ได้หยิบแค่อาหารไทยมาผสมผสานกับอาหารตะวันตกเท่านั้น แต่ยังเสิร์ฟเมนูอาหารหลายสัญชาติจากเอเชียเน้นการใช้วัตถุดิบท้องถิ่นและตามฤดูกาล

 

         ทางร้านบอกว่าอีสานเข้ากรุง (250 บาท) คือเมนูที่ขายดีตลอดกาล ประกอบด้วยตับย่าง หมูย่าง แหนมซี่โครง ไส้กรอกอีสาน แหนมหมูสด เสิร์ฟพร้อมผักเคียงต่างๆ ตามสไตล์ภาคอีสาน อีกเมนูแนะนำคือแกงเขียวหวานเนื้อวากิวย่างและอะโวคาโด (250 บาท) เป็นแกงเขียวหวานรสชาติแบบไทย แต่ใช้วิธีทำเพสโต้แบบอิตาเลียนดัดแปลงทำเป็นแกงเขียวหวาน และเครื่องดื่มซิกเนเจอร์รสเปรี้ยวซ่าที่มีชื่อเดียวกันกับร้านอย่าง Lake ‘n Park น้ำแอปเปิ้ลและเลมอนที่มีส่วนผสมจากน้ำตาลทรายแดงให้เคี้ยวกรุบๆ (180 บาท)

 

WHERE: ร้านเปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 11.00-23.00 น.
เบอร์โทรศัพท์ 0-2203-4021-2

ภาพ: สรรพัชญ์ วัฒนสิงห์