หน้าสวยเป๊ะ ด้วยโบเยอรมัน

หน้าสวยเป๊ะไม่ต้องเจ็บ ไม่ต้องผ่าตัด ด้วยนวัตกรรมทางการแพทย์ หลายคนรู้จักกันดีในชื่อ #โบเยอรมัน* แล้วทำไมต้องโบเยอรมัน จะมีใครตอบได้ดีเท่ากับ พญ.อวิกา รงค์ทอง หรือคุณหมอผึ้ง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและความงามแห่ง Awika Clinic งานนี้เคลียร์ชัด อยากกรอบหน้าเรียวสวยได้รูปเทคนิคไหนเวิร์กสุด

โจทย์วันนี้เป็นเรื่องความไม่มั่นใจเวลาที่สาวๆ ต้องออกกล้อง หรือมีงานอีเวนต์ใหญ่ๆ ที่ต้องถ่ายรูป แล้วกังวลว่าหน้าจะไม่สวยได้รูป งานนี้ไม่พึ่งแอปฯ ไม่ได้ผ่าตัดศัลยกรรม แค่ใช้นวัตกรรมให้เหมาะสม และคุณหมอที่ชำนาญเท่านั้น

Q: เวลาถ่ายรูปแล้วหน้ากลมไม่สวยเลย

A: หลายคนไม่มั่นใจเวลาถ่ายรูป ส่วนมากมาจากฟปัญหาของผิวที่ไม่กระชับ พอเข้ากล้องแล้วทำให้หน้ากลมเกินจริง หลายคนมาหาหมอเพื่อทำให้กรอบหน้าคมชัดขึ้น เทคนิคเดียวกับการเฉดดิ้งเวลาเราแต่งหน้า ซึ่งหลายคนมาหาหมอ หมอจะแนะนำในส่วนของการฉีดท็อกซิน เพื่อช่วยในการลิฟต์หน้าขึ้น ผลลัพธ์ก็จะค่อยๆ เห็นความกระชับอยางต่อเนื่อง

Q: ท็อกซินน่ากลัวไหม

A: ท็อกซินที่ว่าย่อมาจาก Botulinum Toxin เป็นสารที่ผ่านการค้นคว้าวิจัยทางการแพทย์มาแล้ว และสามารถใช้ในการเสริมความงามด้วย ซึ่งนิยมใช้เพื่อลดริ้วรอยเหี่ยวย่น รอยขมวดคิ้วต่างๆ รวมทั้งช่วยฉีดลดกล้ามเนื้อกราม ซึ่งหมอจะแนะนำเป็นเทคนิค Skin Lifting เป็นการฉีดตื้นๆ รอบกรอบหน้า เพื่อให้กรอบหน้ายกขึ้น เห็นโครงหน้าสวยชัดขึ้น เพื่อแก้ปัญหาที่หลายคนกังวลเรื่องหน้าใหญ่ นอกจากนี้ยังมีส่วนช่วยให้ผิวกระจ่างสดใสขึ้นด้วย

Q: ทำไมเป็นโปรแกรมยอดฮิต  

A: การใช้ Toxin Lifting ที่นิยมมากส่วนหนึ่งก็เพราะว่าทำเสร็จแล้วเห็นผลความเปลี่ยนแปลงทันที ไม่ต้องรอ แต่ถ้าใช้อีกเทคนิคอาจจะต้องรอเวลาประมาณ 2 สัปดาห์หลังฉีด ส่วนเรื่องลดริ้วรอยจะเห็นผลชัดเจนประมาณ 1 สัปดาห์ แต่ทั้งหมดก็เป็นวิธีการที่เรียกได้ว่าสร้างมาเพื่อความสวยด่วน ใครที่มีแผนจะไปงานอีเวนต์สำคัญทั้งหลาย และผลลัพธ์จะยิ่งชัดเจนมากขึ้นหลังช่วงเวลา 1-2 สัปดาห์หลังจากนั้น

Q: ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่

A: คลินิคที่ได้มาตรฐานส่วนมากอยู่ที่ประมาณ 10,000 บาทขึ้นไปค่ะ ราคาเพิ่มขึ้นไปตามปริมาณยาที่ใช้พื้นผิวหน้า เช่น ริ้วรอยมาก หน้าใหญ่ ก็เพิ่มขึ้นตามปัญหา

Q: ควรเผื่อเวลาไว้ประมาณเท่าไหร่ถึงจะดีที่สุด หากจะต้องออกงานสำคัญ

A: ควรเผื่อเวลาไว้นะคะ อย่างน้อยสัก 1 เดือน ระหว่างที่เริ่มเห็นความเปลี่ยนแปลง เราจะได้เห็นว่ามีส่วนไหนที่รู้สึกว่ายังไม่เป๊ะดั่งใจ จะได้มาหาหมอเพื่อเก็บรายละเอียดเพิ่มเติม แต่ความจริงแล้วถ้าเป็นงานกะทันหันก็สามารถฉีดก่อนไปงานได้นะคะ

Q: สวยแล้วยังต้องบำรุงผิวอีกไหม

A: ต้องบำรุงควบคู่กันสิคะ สกินแคร์และครีมกันแดดยังเป็นสิ่งจำเป็นอยู่

Q: ข้อห้ามก่อนทำ

A: ถ้าเป็นไปได้ก็งดแอลกอฮอล์ก่อน เพราะในคนไข้บางรายมีผลต่อการหยุดไหลของเลือด นอกจากนี้ยาและวิตามินบางชนิดก็มีส่วนทำให้เลือดหยุดไหลช้า เช่น แอสไพริน วิตามินอี Fish Oil และสารอาหารบางชนิด แต่ไม่ถึงกับเป็นอันตราย เพียงแต่มีผลทำให้เลือดหยุดช้า ซึ่งตรงนี้คุณหมอจะซักประวัติคนไข้ก่อนอยู่แล้ว

Q: ข้อควรระวังก่อนทำ

A: หลังทำความเข้าใจให้ตรงกันระหว่างหมอและคนไข้ พูดคุยเรื่องราคาชัดเจนแล้ว ก่อนฉีดหมอจะเอายาให้คนไข้ดูก่อนเสมอ ซึ่งนี่เป็นสิทธิ์ที่จำเป็นสำหรับทุกคน เพื่อให้เห็นว่าเราใช้ยี่ห้อที่ตกลงกันไว้ไหม ดูวันเดือนปีที่ผลิต อย่าลืมดูบริษัทที่นำเข้าให้ถูกต้อง เพราะนี่สำคัญมาก ถ้าไม่มีระบุถูกต้องชัดเจน ก็ไม่มีการการันตี ทั้งเรื่องของคุณภาพ การขนส่ง ความสะอาดต่างๆ ซึ่งมีผลต่อตัวยาทั้งนั้น

Q: การดูแลตัวเอง

A: 4 ชั่วโมงหลังฉีดห้ามนอนราบ ห้ามดื่มแอลกอฮอลล์ทั้งหลายประมาณ 2 วัน ส่วนการออกกำลังกายทำได้ไม่มีปัญหาอะไรเลยค่ะ อาจจะมีแค่ช่วงประมาณ 1-2 สัปดาห์หลังฉีดที่อาจจะเว้นการออกกำลังกายผาดโผน การทำทรีตเมนต์หรือนวดหน้า เลเซอร์หน้า และพยายามหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับความร้อน เช่น แสงแดด อบซาวน่า หรือโยคะร้อนไปก่อน

Q: ระยะเวลาของผลลัพธ์นานแค่ไหน

A: โดยรวมท็อกซินจะคงทนอยู่ประมาณ 4-6 เดือน ขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองและปัจจัยรอบข้าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของมลภาวะต่างๆ ความร้อน แสงแดด กินน้ำน้อย พักผ่อนไม่เพียงพอ สูบบุหรี่ หรือดื่มแอลกอฮอล์ ต่างก็มีส่วนทำลายคอลลาเจนให้เสื่อมไปง่าย มีผลต่อท็อกซินที่เราฉีดไปเช่นกัน

นอกจากนี้หลายคนฉีดบ่อยเกินไป จนทำให้ฉีดแล้วไม่เห็นผลลัพธ์ในที่สุด ทำให้เกิดอาการ ‘ดื้อยา’ แต่ในส่วนของ ‘โบเยอรมัน’ มีคุณสมบัติโดดเด่นเรื่องความบริสุทธิ์มาก จึงมีส่วนช่วยในการป้องกันการดื้อยา ทำให้ไม่ต้องกังวลกับปัญหาที่ต้องฉีดซ้ำๆ เพราะไม่เห็นผล ตรงนี้หลายๆ คนประสบปัญหาแบบนี้เยอะ เพราะบางครั้งเราเห็นโปรโมชั่นลดราคา หรือไปตามสถานพยาบาลที่ไม่มีมาตรฐาน ก็เสี่ยงต่อของไม่มีคุณภาพ

• Awika Clinic ชั้น 3 เอสพลานาด รัชดา โทร. 02-660-9002-3

• *โบเยอรมัน ภายใต้การนำเข้าโดย บริษัท เมิร์ซ เอสเธติกส์ ประเทศไทย จำกัด (Merz Aesthetics)