จากความชื่นชอบการร้องการเต้นในวัยเด็กของ “พาด้า SWEAT16!” และความพยายามเดินตามความฝันมาตลอด ทำให้เธอได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวง SWEAT16! ที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของเธอในเส้นทางของวงการบันเทิง
แนะนำตัวหน่อย จุดเริ่มต้นของการมาเป็น SWEAT16!
ด้าเป็นคนชอบร้องเพลง ชอบเต้นอยู่แล้ว เราก็เดินตามความฝันไปออดิชั่นมาเรื่อย จนได้ออดิชั่นของโครงการนี้แหละค่ะ ก็ได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของวง SWEAT16!
ออดิชั่นมาหลายครั้งแล้ว ความแตกต่างระหว่างไอดอลไทยกับไอดอลญี่ปุ่น ต่างกันอย่างไร
ของญี่ปุ่นนี่เค้าจะตรงเวลาเป๊ะมา 6.00 คือ 6.00 ไม่ใช่ 6.05 และการฝึก ฝึกหนักมาก เราต้องจริงจังตั้งใจมาก และคุณครูเข้มงวดมาก
เรามีไอดอลของเราบ้างไหม
เยอะนะ แต่ถ้าเป็นคนที่ทำให้เราอยากร้องเพลงเป็นคุณพ่อค่ะ คุณพ่อชอบเล่นกีตาร์และร้องเพลง ส่วนของไอดอลในวงการก็จะเป็น Cher lloyd ที่เคยประกวดรายการ X-Factor ชอบสไตล์ ชอบแนวเพลง
ทำไมเราถึงตัดสินใจเข้ามาเป็นไอดอลเกิร์ลกรุ๊ป
ปกติด้าจะเป็นคนที่ชอบร้อง ชอบเต้น อยู่แล้ว แต่ไม่ได้เต้นเก่งขนาดนั้น เรารู้สึกว่าเราก็เก่งปานกลาง ไม่ถึงขั้นเพอร์เฟ็กต์ไปซะทุกอย่าง ยิ่งด้ามาอยู่วงไอดอลเกิร์ลกรุ๊ปแนวญี่ปุ่น เราก็ต้องซ้อมให้หนักกว่าเดิม พัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ ด้าว่าการเป็นเกิร์ลกรุ๊ปมันเป็นการฝึกความพร้อม เวลาเราทำอะไรก็ต้องทำไปพร้อมกับเพื่อน การไปเป็นกรุ๊ปมันจะช่วยกันได้ มีอะไรก็ถามกัน คุยกัน แต่ถ้ามีโอกาสได้เป็นศิลปินเดี่ยวก็อยากจะเป็นเหมือนกันค่ะ
ทำไมถึงเลือกมาเป็นไอดอลของโครงการนี้
ด้าชอบประกวดตั้งแต่เด็ก ด้าลองทุกเวที และเวทีนี้ก็ให้โอกาสด้า ด้าก็จะตอบแทนให้ดีที่สุด่ะ
จุดขายของ SWEAT16!
ของ SWEAT16! จะเป็นเรื่องความพร้อม การเต้น ความสนุกสนาน อารมณ์ การสื่อสารกับแฟนคลับ
กลัวไหมที่จะเข้ามาในตลาดของไอดอล
ไม่กลัวนะ เราเปรียบเทียบกันไม่ได้อยู่แล้ว มันคนละสไตล์กัน มันเป็นเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมไอดอล ที่แต่ละคนจะมีคาแร็กเตอร์ที่ไม่เหมือนกัน นิสัย การเอ็นเตอร์เทน ความชอบของแฟนๆ ก็แตกต่างกันอยู่แล้ว ด้ามองว่าเป็นการเพิ่มตัวเลือกให้กับแฟนคลับจะดีกว่า
ความทรงจำที่สวยงาม
ด้าชอบความรู้สึกวันที่เราเปิดตัวครั้งแรกมาก วันที่เราเปิดตัวว่าพวกเราคือวง SWEAT16! มันเป็นความรู้สึกที่เราได้เดบิวต์แล้วนะ แล้วก็มีแฟนๆ มาให้กำลังใจในวันนั้นเยอะมาก ไม่คิดเลยว่าจะมีคนมาเยอะขนาดนั้น เขาเชียร์เราให้กำลังใจเรา จนเรารู้สึกว่าสิ่งที่ทำมาทั้งหมดได้รับการยอมรับแล้ว เพราะก่อนหน้านี้คือเราฝึกกันหนักมากๆ ตอนแรกที่เข้ามารู้สึกท้อมากว่าทำไมเข้ามาแล้วฝึกหนักขนาดนี้ ฝึกหนักจริงๆ ไม่เคยฝึกหนักขนาดนี้ ทั้งวิดพื้น ทั้งออกกำลังกาย มันทั้งท้อและกดดันมากๆ
แล้วมีจุดเหนื่อยจุดท้อ
การซ้อมนี่แหละค่ะ หนูไม่เคยฝึกหนักขนาดนี้มาก่อน ทั้งวิดพื้น ออกกำลังกาย เพื่อพัฒนาการร้องการเต้นให้เราสามารถควบคุมร่างกายได้ จะได้เต้นกันได้อย่างพร้อมเพรียงกัน และคุณครูที่ฝึกสอนเราปกติเค้าจะไม่ยิ้มไม่ชม ค่อนข้างดุ แต่วันสุดท้ายที่ครูเขายิ้มและชมให้กับพวกเรา พอเราได้รับรอยยิ้มและคำชมจากคุณครูก็ร้องไห้เลย
ในอนาคตอยากทำอะไร
หนูเรียนสาขาร้องเพลงมาก็อยากจะเป็นครูสอนร้องเพลง อีกอย่างหนึ่งหนูอยากเป็นนักแสดง
มองอนาคตของวง SWEAT16! ยังไง
ด้าอยากให้วงเป็นที่รู้จักในต่างประเทศ ในเอเชียก็ดีใจ
กดดันไหม ในฐานะไอดอลรุ่นแรก
กดดันนิดหนึ่ง ในฐานะที่เราเป็นรุ่นพี่ ก็พยายามพัฒนาตัวเองไปเรื่อยๆ ไม่หยุด
มีกฎอะไรที่เราไม่เคยเจอมาก่อน
กฎเรื่องการพูดคุยทางสื่อสังคมออนไลน์ที่เราจะต้องคิดก่อนพิมพ์ คิดเยอะๆ หลายๆ รอบ ต้องเป็นต้นแบบที่ดีให้ได้
