


“ผลงานในรอบที่แล้วจะไม่ถูกนำมาใช้และพิจารณาในรอบตัดสินนี้ โดยทั้ง 5 ทีมจะต้องสร้างสรรค์ผลงานขึ้นมาใหม่ โดยทางศูนย์การค้า Union Mall มีงบประมาณให้ทีมละ 3,000 บาทในการเลือกเสื้อผ้า เครื่องประดับ แมตทีเรียลต่างๆ มาใช้ตั้งต้นในการสร้างสรรค์ผลงาน ซึ่งสินค้าที่ซื้อในศูนย์การค้า Union Mall ครั้งนี้ต้องถือเป็น 80% ของชิ้นงานที่สร้างสรรค์ขึ้นในรอบตัดสิน”


ไม่เพียงแค่นั้น ยังมีเวลาจำกัดให้เพียงแค่ 2 ชั่วโมง นอกจากจะเป็นเซอร์ไพรส์ที่ทำให้ทั้ง 5 ทีมเหวอไปตามๆ กันแล้ว กติกาใหม่นี้ยังเป็นการท้าทายความสามารถ ไหวพริบ และความสร้างสรรค์ของทั้ง 5 ทีมสุดท้ายอีกด้วย จากนั้นก็ถึงเวลาที่
ทั้ง 5 ทีมต้องไปตะลุยซื้อของในศูนย์การค้า Union Mall โดย
คุณนาตาเลีย เพลียแคม จะตามไปเป็นโค้ชเพื่อดูของที่แต่ละทีมเลือกซื้อ รวมไปถึงไอเดียในการที่จะหยิบจับเอาของที่ซื้อมาไปต่อยอดสร้างสรรค์เป็นชิ้นงานในรอบตัดสิน


ความสนุกสนานของช่วงเวลานี้อยู่ที่การตะลุยซื้อของในศูนย์การค้า Union Mall ซึ่งเต็มไปด้วยสินค้าที่หลากหลาย และที่สำคัญคือราคาย่อมเยา เรียกได้ว่าเงิน 3,000 บาทที่เป็นเงินให้จับจ่ายใช้สอยในการทำผลงานในรอบตัดสินนี้ สามารถซื้อได้ทุกอย่างตั้งแต่เสื้อผ้า เครื่องประดับ ไปจนถึงรองเท้าเลยทีเดียว โดยเฉพาะโซนวินเทจ ซึ่งเป็นความโดดเด่นของศูนย์การค้า Union Mall เป็นโซนที่ทีมผู้เข้ารอบทั้ง 5 ทีมไปเจอกันโดยไม่ได้
นัดหมายมากที่สุด



ซึ่งต้องรอติดตามว่า 1 ใน 5 ทีมนี้ ทีมใด
จะเป็นผู้ชนะและคว้ารางวัลในการประกวด Street Fashion Stylist Award 2018 นี้ไปครอง