นี่คือผลงานการออกแบบของทั้ง 25 ทีมที่เข้ารอบและนำมาพรีเซนต์ต่อคณะกรรมการในรอบสองเพื่อคัดเลือกเหลือเพียง 5 ทีมสุดท้าย พร้อมคอมเมนต์จากคณะกรรมการทั้ง 5 คนว่าทำไม 5 ทีมนี้ถึงได้เข้ารอบ
แม้จะเป็นการยากที่จะต้องคัดเลือกผลงานจากทั้ง 25 ทีมให้เหลือเพียง 5 ทีมเท่านั้นเพื่อเข้าสู่รอบไฟนอลลิสต์ และต้องสร้างผลงานเพื่อนำมาแสดงบนรันเวย์อีกครั้งในวันที่ 6 ตุลาคม 2561
ณ ศูนย์การค้า Union Mall โดยผู้เข้ารอบทั้ง 5 ทีมได้แก่ ทีม First Light, ทีม Toon’z x Toon’z,
ทีม Meden, ทีม Nothing Is Wrong และทีม Family M
โดยคุณจิดาภา ศิริจิตร กล่าวถึงผลงานของทีม Toon’z x Toon’z ว่า “สิ่งที่น่าสนใจของทีม Toon’z x Toon’z ก็คือความสวยงามในการออกแบบทั้งการใช้ลายสก๊อตหลายๆ สี มาผสมผสานกัน ที่สำคัญยังมีการสร้างชุดใหม่ได้ออกมาอย่างน่าสนใจ ทั้งการจับจีบ อัดกาว ตอกหมุด ตาไก่ อีกทั้งยังเป็นเสื้อผ้าที่สวมใส่ได้จริงอีกด้วย ซึ่งทำให้ทีม Toon’z x Toon’z ผ่านเข้าสู่รอบ 5 ทีมสุดท้ายได้”
ในขณะที่คุณคำฉันท์ ศรีสุวรรณ กล่าวถึงทีม Family M ว่า “สิ่งที่ชอบสำหรับทีมนี้ก็คือการเลือกใช้เสื้อผ้าเก่าเก็บของครอบครัวมาใช้เป็นวัตถุดิบตั้งต้นในการออกแบบ นำมามิกซ์แอนด์แมตช์และดีคอนสตรักชั่นใหม่ เกิดเป็นเสื้อผ้าที่มีความสวยงามและน่าสนใจ และยังตรงคอนเซ็ปต์ในเรื่องของ Ungendered อีกด้วยสิ่งที่เห็นได้อย่างชัดเจนเลยก็คือความคิดสร้างสรรค์ในการทำชุด การเอาสูทของคุณพ่อ เดรสของคุณแม่ ฯลฯ มาใช้จนเกิดเป็นงานชิ้นใหม่ที่เห็นแล้วตัวเองยังอยากจะได้เลย”
ผศ.จิรัชญา วันจันทร์ อาจารย์ประจำภาควิชาศิลปะและการออกแบบพัสตราภรณ์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ หนึ่งในคณะกรรมการในรอบนี้ กล่าวถึงทีม First Light ว่า “สิ่งที่น่าสนใจมากๆ คือการใช้แอ็กเซสซอรีส์ต่างๆ เช่น กระเป๋ามาใช้ในการออกแบบ ผสมกับเสื้อผ้า และก็โทนสีที่ใช้ซึ่งโดดเด่นสะดุดตา ทำให้งานของเขาน่าสนใจและแปลกไปกว่าทีมอื่นๆ”
อีกหนึ่งทีมที่ผ่านเข้ารอบก็คือทีม Meden โดยคุณชนิตตนัณท์ กาญจนสมวงศ์ กล่าวถึงทีม Meden ว่า “นอกจากการนำชุดมามิกซ์แอนด์แมตช์ไว้ด้วยกันแล้ว ยังมีการตัดต่อ การสร้างเลเยอร์ การเล่นสี ซึ่งทำให้เห็นถึงไอเดียความสร้างสรรค์และรสนิยมได้อย่างดี และสามารถสวมใส่ได้จริงในชีวิตประจำวัน ดูเป็นสตรีทแฟชั่นที่เก๋มากอีกด้วย”
และทีมสุดท้ายที่ผ่านเข้ารอบก็คือทีม Nothing Is Wrong โดยคุณคเชนทร์ วงศ์แหลมทอง กล่าวถึงความน่าสนใจของทีม Nothing Is Wrong ว่า “การใช้สีที่แสดงถึงความร้อนและเย็น ลายพิมพ์ในเทคนิคที่น่าสนใจ เป็นตัวกำหนดในคอนเซ็ปต์ Ungendered การใช้แอ็กเซสซอรีส์เข้ามาช่วยในการสไตลิ่งซึ่งเก๋และมีความหมายไปกับคอนเซ็ปต์ จึงเป็นผลงานออกแบบแฟชั่นที่น่าสนใจในรูปแบบสตรีทแวร์จริงๆ”
นอกจากทีมที่เข้ารอบทั้ง 5 ทีมนี้แล้ว ผลงานทั้งจาก 25 ทีมที่นำมาพรีเซนต์ในรอบนี้ยังจะถูกนำไปจัดเป็นนิทรรศการ ณ ศูนย์การค้า Union Mall ในระหว่างวันที่ 1-7 ตุลาคม 2561 อีกด้วย และอย่าลืมร่วมชมร่วมเชียร์ผลงานของทั้ง 5 ทีมที่เข้ารอบ และร่วมลุ้นว่าทีมใดจะเป็นผู้ชนะและคว้างรางวัลมูลค่ากว่า 1 ล้านบาทนี้ไป บนรันเวย์โชว์ในงาน Street Fashion Stylist Award 2018 ได้ในวันที่ 6 ตุลาคม 2561 ตั้งแต่เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป ณ ศูนย์การค้า Union Mall
