

ในการคัดเลือกรอบแรกนี้ มีผลงานส่งเข้าประกวดทั้งหมด 256 ผลงาน โดยจะคัดเลือกเหลือเพียง 25 ผลงานเท่านั้นที่จะผ่านสู่รอบต่อไป ซึ่งผู้ที่เข้ารอบทั้ง 25 ทีม จะต้องนำผลงานจริง
มานำเสนอต่อหน้าคณะกรรมการในวันเสาร์ที่ 22 กันยายน

คุณสุรเจต โภคมั่งมี ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและลูกค้าสัมพันธ์ศูนย์การค้า Union Mall กล่าวว่า “ปีนี้ถือว่าได้รับการตอบรับอย่างดี มีผู้ให้ความสนใจส่งผลงานเข้าประกวดเพิ่มมากขึ้น
ซึ่งมีทั้งสิ้น 256 ผลงาน ซึ่งธีมในปีนี้ก็คือ Ungendered Fashion หรือ #แฟชั่นไม่จำกัดเพศ”

อีกหนึ่งคณะกรรมการในการตัดสินรอบแรกก็คือคุณคำฉันท์ศรีสุวรรณ ที่ปรึกษาด้านการออกแบบภาพลักษณ์องค์กรศูนย์การค้า Union Mall เล่าให้ฟังถึงที่มาของธีมการประกวด
ในปีนี้ว่า “แฟชั่นไม่จำกัดเพศ หรือเสื้อผ้าสไตล์ Ungendered นั้นถือเป็นเทรนด์ที่มาแรงในระดับโลก แบรนด์ระดับโลกหลายแบรนด์ก็เริ่มที่จะทำผลงานออกมาในรูปแบบที่ไม่จำกัดเพศแล้ว ซึ่งเราเห็นว่าความเคลื่อนไหวในแวดวงแฟชั่นในประเด็นนี้เป็นประเด็นที่น่าสนใจ และวัยรุ่นในปัจจุบันเองก็มีการแต่งตัวที่แตกต่างหลากหลาย ไม่ได้สนใจว่าจะต้องเป็นเสื้อผ้าผู้ชาย
หรือผู้หญิง ขอเพียงแค่ดีไซน์สวยเก๋ เราจึงนำเอาธีมนี้มาเป็น
ธีมในการประกวดปีนี้”

ในขณะที่คุณชนิตตนัณท์ กาญจนสมวงศ์ สไตลิสต์จากนิตยสาร HAMBURGER หนึ่งในคณะกรรมการ กล่าวว่า “จากผลงานที่เห็นในวันนี้ทั้ง 256 ผลงาน เห็นได้ว่าแต่ละทีมมีผลงานที่น่าสนใจ มีความสร้างสรรค์ โดยเฉพาะในประเด็นเรื่องการ สไตลิ่งที่สามารถสร้างงานออกแบบให้ออกมาตามโจทย์ได้อย่างน่าสนใจ และที่สำคัญคืออยู่ภายใต้ธีม #แฟชั่นไม่จำกัดเพศ และมีความเป็นสตรีทสไตล์ เป็นผลงานการออกแบบที่เมื่อสร้างสรรค์ผลงานจริงออกมาน่าจะเป็นเสื้อผ้าที่สวมใส่ได้จริงและมีความสวยเก๋ในแบบแฟชั่นจริง”
และสุดท้ายกับอีกหนึ่งคณะกรรมการในรอบนี้ คุณสันติชัย อาภรณ์ศรี บรรณาธิการบริหารนิตยสาร HAMBURGER กล่าวว่า “ความน่าสนใจของผลงานที่ส่งเข้าประกวดในปีนี้ก็คือแม้ จะอยู่ภายใต้ธีมเดียวกัน แต่หลายทีมที่ส่งผลงานเข้ามานั้น มีแรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ต่างกัน ทำให้ได้ผลงานที่ หลากหลาย และแม้บางส่วนจะส่งผลงานเป็นภาพกราฟิก ในสไตล์งานคอลลาจ แต่ก็เห็นได้ถึงไอเดียในการสร้างสรรค์ จากนี้ไปในรอบที่สองที่จะต้องคัดจาก 25 ทีม เหลือเพียง 5 ทีมคงจะได้เห็นกันว่าภายใต้ไอเดียที่เสนอมานั้น เมื่อเป็นผลงานจริงจะออกมาเป็นอย่างไร”
จากการตัดสินของคณะกรรมการทั้ง 4 คนในวันนั้น ซึ่งใช้หลักเกณฑ์ในการตัดสินทั้งผลงานอยู่ภายใต้ธีมการจัดประกวด ความน่าสนใจของงานออกแบบ ความสร้างสรรค์ของงานออกแบบ แนวโน้มในการพัฒนาไปสู่การสร้างผลงานจริง ฯลฯ ได้คัดเลือกจาก 256 ทีม เหลือเพียง 25 ทีม ที่จะต้องสร้าง
ผลงานจริงมานำเสนอต่อคณะกรรมการในรอบต่อไปในวันที่
22 กันยายน และนี่คือผลงานของทั้ง 25 ทีมที่ผ่านเข้ารอบ




