Exclusive Interview – Dajazz Dajim

Written by  
09.04.18 1,451 views

เชื่อเถอะว่าใครๆ ก็จับตามองการ collaboration ระหว่าง แจ๊ส สปุ๊กนิค ปาปิยอง กุ๊กกุ๊ก (แจ๊ส ชวนชื่น) กับ DAJIM (ตั้ม-สุวิชชา สุภาวีระ) ในฐานะโปรดิวเซอร์ผู้เฟ้นหาและช่วยปั้นแร็ปเปอร์ฝีปากดีรุ่นใหม่ เพื่อเข้าแข่งขันในรายการ Show Me the Money เพราะคนหนึ่งเป็นศิลปินตลกที่เพิ่งทำเพลงจริงจังในช่วงไม่กี่ปีมานี้ ส่วนอีกคนก็เป็นตำนานแร็ปเปอร์ไทยที่หายหน้าจากวงการไปนานมาก จนหลายคนตั้งข้อสงสัยว่าพวกเขาจะสามารถต่อกรกับโปรดิวเซอร์ทีมอื่นในรายการได้จริงหรือ? เพราะโปรดิวเซอร์อีก 7 คนที่เหลืออย่าง Buddha Bless, ป๊อก Mindset, เป้ Mild, เดย์ Thaitanium, เป้ Boom Boom Cash ต่างก็อยู่ในวงการแร็ปเปอร์มานานและทำงานเพลงออกมาอย่างต่อเนื่องกันทั้งนั้น


หลายคนกังขากับความสามารถของทีม Dajim & Jazz SPKK อยู่พอสมควรเลยนะ

Jazz SPKK “ผมยอมรับตามตรงเลยนะว่าผมค่อนข้างกลัวกับการเข้ามาทำงานตรงนี้มากทีเดียว เพราะถึงผมจะเป็นมาแล้วทั้งตลก นักแสดง พิธีกร นักร้อง แต่ผมยังไม่เคยเป็นแร็ปเปอร์เลย เรียกได้ว่าผมไม่เคยมีบทบาทในโลกของแร็ปเปอร์มาก่อนเลยก็ว่าได้ ผมเป็นแค่คนๆ หนึ่งที่ชื่นชอบการฟังเพลงแร็ปเท่านั้นเอง ผมฟังเพลงแนวนี้เป็นประจำ บางครั้งก็ฟังไม่ออกหรอกว่าที่ร้องแปลว่าอะไร เพราะผมพูดภาษาอังกฤษไม่ได้ เราโง่ จบแค่ ป.6 เอง การฟังเพลงแร็ปสากลของเราจึงใช้ความรู้สึกเป็นสำคัญ เช่นเดียวกับการทำงานในรายการนี้ สิ่งที่ผมมีก็คงเป็นความรู้สึกนั่นแหละครับ เพราะผมแทบไม่มีความรู้เกี่ยวกับเพลงแนวนี้ แต่ดันต้องทะลึ่งไปให้คำแนะนำคนอื่นเขาด้วย ดังนั้นก็ไม่แปลกใช่มั้ยล่ะครับที่ผมจะกลัว แล้วก็กังวลกับการเข้ามาทำงานตรงนี้ ถ้ารายการออนแอร์ไปแล้วจะมีใครมาบอกว่าไอ้แจ๊ส มึงมาจากไหนเนี่ย มายืนอยู่ในพื้นที่ตรงนี้ได้ยังไง ก็คงไม่แปลกสักเท่าไหร่ แต่ถึงจะคิดเอาไว้ก่อนแล้ว ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่ายังรู้สึกกลัวเหตุการณ์แบบนั้นอยู่ดี”

Dajim “ผมไม่ได้ยอกันเองนะครับ แต่ผมคิดว่าแจ๊สเป็นคนเก่งมาก ความสามารถเขารอบด้านจริงๆ ยุคนี้คงไม่มีใครเกินเขาอีกแล้ว อย่างเพลง DAJIM DAJAZZ ซึ่งผมกับแจ๊สช่วยกันแต่งขึ้นมา ถ้าได้ฟังก็จะเห็นได้ชัดเลยว่าเขาแต่งท่อนแร็ปได้เฟี้ยวมาก เฟี้ยวกว่าท่อนของผมเยอะเลย ผมเลยคิดว่าแจ๊สเขามีสกิลการแต่งเพลงแร็ปได้ดีกว่าแร็ปเปอร์หลายๆ คนด้วยซ้ำ”

Jazz SPKK “ขอบคุณพี่ตั้มมากเลยครับ (ยกมือไหว้)” 

Dajim “เพลงที่ผ่านมาของเขาอาจจะไม่ใช่สไตล์ฮิปฮอปหรือแร็ปจ๋า แต่ส่วนตัวผมเห็นเขามาตั้งแต่เด็กๆ แล้ว เพราะเมื่อก่อนผมสนิทกับคณะชวนชื่นอยู่พอสมควรเลย ผมเคยชวนแม็กก้า หรือแม็ก ชวนชื่น มาเป็นแขกรับเชิญในคอนเสิร์ตเมื่อสมัยก่อน แล้วผมก็เป็นคนชวนแม็กมาออกอัลบั้มกับค่าย genie records ช่วงนั้นก็ได้เจอกับแจ๊สบ่อยๆ นะ แต่ก็ไม่ถึงกับสนิทสนมอะไรมาก แค่รู้ว่าเขามีความสนใจเพลงแนวนี้อยู่เหมือนกัน”

Jazz SPKK “ขอบคุณอีกทีครับพี่ (ยกมือไหว้)”

Dajim “(ยิ้ม) แต่ส่วนตัวผมก็กดดันเหมือนกันนะ เพราะเราเองก็หายหน้าไปจากวงการมานานพอสมควร ถึงเราจะยังไม่ได้เลิกร้องเพลงก็เถอะ แต่พอคนไม่เห็นกันนานๆ แบบนี้ก็คงต้องสงสัยว่าสนิมขึ้นแล้วหรือเปล่า แต่ผมบอกไว้ตรงนี้เลยว่าผมไม่เคยหยุดแร็ปเลยสักวันนะครับ เรื่องสนิมขึ้นคงไม่มีทางเกิดขึ้นแน่ๆ จะมีบ้างก็แค่อาการตื่นเวที เพราะเราไม่ได้มายืนต่อหน้าคนเยอะๆ นานแล้ว อีกอย่างการเข้ามาอยู่ในรายการนี้ เราต้องรับหน้าที่โปรดิวเซอร์คอยให้คำแนะนำผู้เข้าแข่งขัน ก็ต้องมีกดดันกันบ้างอยู่แล้ว เพราะเหมือนเราถืออนาคตของน้องๆ เหล่านั้นอยู่ในมือเหมือนกัน”

ดูเหมือนแจ๊สจะยังไม่ค่อยมั่นใจในการทำเพลงแร็ปสักเท่าไหร่นะ

Jazz SPKK “ตอนนี้ไม่มีปัญหาอะไรแล้วครับ ความกลัวเกิดขึ้นแค่ช่วงแรกๆ เท่านั้นเอง เพราะการทำรายการนี้ไม่ใช่แค่ให้เราเข้าไปเป็นโปรดิวเซอร์อย่างเดียวเท่านั้น แต่เรายังต้องแต่งเพลงแร็ปด้วย ซึ่งเราไม่เคยแต่งเพลงแนวนี้มาก่อนเลยในชีวิต จำได้ว่าสมัยก่อนเคยคิดจะเขียนเหมือนกัน ตอนนั้นนึกขึ้นมาได้ตอนอยู่ในห้องน้ำ แต่พอคิดไปคิดมาว่าแต่งได้แล้วจะเอาไปเล่นที่ไหนวะ สุดท้ายก็ต้องพักเอาไว้ก่อน แล้วเลือกทำงานที่อยู่ตรงหน้าตอนนั้นไปดีกว่า เพราะแค่เล่นตลกอย่างเดียวยังหมาไม่แดกเลย อย่างตอนเริ่มแต่งเพลงแรกให้รายการนี้ผมก็คิดว่าคงไม่ไหวแน่ๆ แต่บังเอิญได้เจอกับพี่โปรดิวเซอร์คนหนึ่งเขาชมว่าเพลงเราดีนะ ตอนนั้นกำลังใจมาแล้ว ทำให้ผมเริ่มรู้สึกว่าตัวเองก็ทำได้เหมือนกันนะ พอมานึกๆ ดูแล้วก็ถ้าย้อนเวลาไปได้ ผมคงจะลงมือทำตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว เพราะด้วยความที่เราเป็นลูกหลานลิเกอยู่แล้ว เรื่องการแต่งกลอนกับการสร้างคำในเพลงแร็ปก็ไม่ได้ต่างกันสักเท่าไหร่”


ต้องกระตุ้นหรือปลุกเร้าอะไรแจ๊สในเรื่องความมั่นใจบ้างไห

Dajim “ไม่ถึงกับต้องไปกระตุ้นอะไรหรอกครับ ผมก็แค่ให้กำลังใจตามปกติเท่านั้นเอง เวลาผมพูดก็ตรงๆ ไปเลยว่าแจ๊ส…มึงเก่งอยู่แล้ว แค่นี้มึงทำได้อยู่แล้ว และเขาก็ทำได้จริงๆ”

ในฐานะรุ่นพี่ช่วยให้คะแนนแจ๊สในการทำเพลงแร็ปหน่อยสิ

Dajim “คงเกือบเต็มเลยครับ ความจริงให้เต็มเลยก็ยังได้นะ ผมคิดว่าปัญหาของแจ๊สมีแค่อย่างเดียวคือเรื่องเวลา เพราะเขาต้องทำงานอย่างอื่นด้วย ผมว่าถ้าเขามีเวลาทำเพลงเต็มที่เหมือนแร็ปเปอร์คนอื่นๆ เขาอาจจะเก่งกว่าผมอีกมั้ง เขาเป็นทั้งซิงเกอร์ แร็ปเปอร์ คอเมเดียน และเอ็นเตอร์เทนเนอร์ได้ในตัวคนเดียว”

Jazz SPKK “ยังไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ แต่ถ้าให้เวลาผมอีกสัก 3 ปี ขลุกอยู่กับการทำเพลงแร็ปอย่างเดียวไปเลย ผมคิดว่าแบบนั้นถึงจะทำให้ผมมีความมั่นใจในการทำเพลงเพิ่มขึ้นนะ เพราะเราเป็นคนที่ทำอะไรก็ทำจริงจังอยู่แล้ว” 

Dajim “ปัญหาของแจ๊สคือเวลาจริงๆ ครับ ไม่ใช่ว่าเขาไม่ตรงเวลานะ แต่เขาเป็นศิลปินที่มีงานเยอะมาก กว่าเราจะได้คุยกันจริงจังก็ต้องรอให้เขาเคลียร์งานเสร็จก่อน ถ้าต้องปรึกษากันด่วนจริงๆ ก็ใช้วิธีไลน์ โทรศัพท์ ไม่ก็วิดีโอคอลคุยกันแทน”

Jazz SPKK “เวลาทำเพลงในรายการนี้ เราเลยใช้วิธีให้พี่ตั้มเป็นคนคิดโครงเพลงขึ้นมาก่อน จากนั้นก็ให้พี่เขาร้องและอัดส่วนของเขาไปเลย หลังจากนั้นผมก็จะ
เข้ามาใส่ในส่วนของผมเพิ่มเติมทีหลังครับ”

ถามทางฝั่งของ Jazz SPKK สักหน่อยว่าอยากพักงานอย่างอื่นมาเดินทางสายแร็ปต่อไปไหม

Jazz SPKK “คงไม่หรอกครับ เพราะส่วนตัวผมเองมีหน้าที่อีกหลายอย่างที่ต้องทำ จึงไม่สามารถหาเวลาให้ตัวเองไปโฟกัสงานเพลงมากขนาดนั้นได้ ต่อให้เราไม่ได้พาตัวเองไปยืนอยู่บนเส้นทางสายแร็ปเปอร์เหมือนพี่ๆ เพื่อนๆ คนอื่น แต่ยังไงเพลงแร็ปก็อยู่ในใจเราเสมออยู่แล้ว เห็นได้จากเพลงของผมอย่างน้อยก็ต้องมีท่อนแร็ปหรือดนตรีฮิปฮอปผสมอยู่ด้วยเสมอ เพราะว่านี่คือแนวดนตรีที่เราชอบและทำให้เรามีความสุขได้ ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมเวลาฟังเพลงแร็ปแล้วรู้สึกมีความสุข”


ทีม Dajim&Jazz; SPKK มีอะไรต่างจากอีก 3 ทีมในรายการ Show Me the Money บ้าง

Dajim “แนวทางการแร็ปของผมเป็นสไตล์ไทยๆ อยู่แล้ว ส่วนแนวทางเพลงของแจ๊สก็ไม่ต่างจากผมมากนัก พื้นฐานของเขาเป็นทั้งลิเกและลำตัดอยู่แล้ว ดังนั้นทีมของผมจึงชัดเจนว่าจะทำเพลงและมุ่งไปทางแร็ปแบบไทยๆ การออกเสียงอักขระต้องชัดเจน การใช้คำต้องสละสลวย คล้องจองสวยงาม”

Jazz SPKK “สำหรับผมจะเน้นไปที่เรื่องของลุคการแต่งตัวและสไตล์การแร็ปมากหน่อย ถ้าเขามาแบบแร็ปเฟี้ยวๆ สไตล์จัดๆ ผมให้ผ่านทันทีเลย (ยิ้ม) ส่วนเรื่องการตัดสินใจก็ปล่อยให้พี่ตั้มเป็นหลักเลยครับ เขาเป็นผู้ใหญ่กว่า (หัวเราะ)”

Dajim “พอเป็นแบบนี้ เวลาตัดสินใจก็เลยเป็นแบบผม 60 แจ๊ส 40 ไปเสียอย่างนั้น (หัวเราะ)”

Jazz SPKK “พี่ตั้ม 80 ผม 20 ก็ยังมีในบางกรณีนะครับ เพราะผมเป็นคนถ่อมตัว (หัวเราะ)”

Dajim “(หัวเราะ) จริงก็แล้วแต่สถานการณ์แหละครับว่าเป็นยังไง เพราะสิ่งที่ตัดสินใจกันออกมาก็เพื่อทีมทั้งนั้น”

คิดยังไงกับแร็ปเปอร์รุ่นใหม่บ้าง

Jazz SPKK “คำถามนี้ควรให้พี่ตั้มที่อยู่ในวงการมานานเป็นคนตอบดีกว่า”

Dajim “ผมคงต้องบอกว่าแร็ปเปอร์หน้าใหม่สมัยนี้เก่งกว่าสมัยก่อนเยอะมาก เพราะถ้าเป็นยุคผม เพลงฮิปฮอปไม่ได้หาฟังกันง่ายๆ เลย ต่างจากสมัยนี้ที่เปิดยูทูป ก็เจอแล้ว ร้านอาหาร ผับ หรือบาร์ ต่างก็หันมาเปิดเพลงฮิปฮอปมากขึ้น เมื่อคน
รุ่นใหม่ได้ฟังเพลงฮิปฮอปมากขึ้น เขาก็ได้รู้จักเพลงฮิปฮอปหลากหลายสไตล์ เข้าถึงแนวดนตรีที่กว้างขึ้น อย่างพวก Youngohm หรือ Illslick ที่มีความหลากหลายทางดนตรีมากขึ้นกว่าเดิม ผมว่าปีนี้น่าจะเป็นปีแห่งฮิปฮอปอย่างแท้จริง”

Jazz SPKK “เรื่องนี้ผมเห็นด้วยกับพี่ตั้มอย่างไม่มีข้อโต้แย้งเลยครับ”