Editor's Talk - Lies a seed, that with the sun’s love. In spring, becomes the rose.

“มันจะตายไหมนะ” เป็นคำพูดที่ผมคิดอยู่ในหัวทุกครั้งที่เดินไปสำรวจต้นกุหลาบในสวนหน้าบ้าน

พี่คนหนึ่ง ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นเซียนในการปลูกกุหลาบ บอกผมเมื่อครั้งที่ไปขอร้องให้มาช่วยลงกุหลาบที่บ้านให้หน่อยว่า “เธออยากปลูกกุหลาบ หรือเธออยากได้ดอกกุหลาบ ถ้าเธออยากได้ดอกกุหลาบให้ไปปากคลองฯ” ผมลังเล และใช้เวลาในการเลือกว่าอยากจะปลูกกุหลาบหรืออยากได้ดอกกุหลาบนานกว่า 6 เดือน เมื่อช่วงปีใหม่ที่ผ่านมานี่เองผมจึงตัดสินใจว่า ‘อยากปลูกกุหลาบ’

ผมไม่ได้เป็นคนโรแมนติก มือเย็น อ่อนโยน ไม่ใช่คนเก๋ ฮิป ถึงอยากจะปลูกกุหลาบ คิดเพียงแค่ว่าอย่างน้อยพอถึงวันวาเลนไทน์ ผมอาจจะได้กุหลาบสักดอกจากสวนหน้าบ้านของตัวเองมันง่ายแค่นั้นเอง หากอยากได้ ไม่ปลูกเอง ก็ซื้อเอา ไม่มีอะไรซับซ้อน

ผมอุทิศซีกขวาของหน้าบ้านทำเป็นสวน ในขณะที่พ่อกับแม่นั้นทัดทานด้วยคำถามง่ายๆ ว่า “ใครจะรดน้ำต้นไม้ มีเวลาเหรอ” สวนของผมเต็มไปด้วยคำทัดทานจากผู้คนรอบข้าง เริ่มตั้งแต่การใช้กระเบื้องลวดลายโปรตุกีสราคาแพงระยับปูเป็นพื้นสวน ตามมาด้วยกระเบื้องลวดลายโมร็อกโกราคาไม่ต่างกันปูกำแพงสวน ไม่มีใครเขาทำกัน ทั้งชนิดและราคาของกระเบื้องรวมไปถึงการใช้กระเบื้องแบบลายชนลายที่ชวนเวียนหัวเช่นนี้ แม้แต่ช่างเองยังถามซ้ำเพื่อความแน่ใจ

ประสบการณ์สอนผมว่าอย่าประนีประนอมกับความชอบของตัวเอง 

ต้นกุหลาบมาส่งช่วงคริสต์มาสปีที่แล้ว ในขณะที่ผมยุ่งเกินกว่าจะนำลงกระถาง มันใช้ชีวิตอยู่ในถุงพลาสติกนานเกือบสัปดาห์ และเมื่อย้ายลงกระถางก็ดูเหมือนว่าใบที่เคยเขียวสดสวยจะค่อยๆ แห้งเหี่ยวเหลืองกรอบและหลุดร่วงลงไปในที่สุด “มันคงจะรู้สึกผิดที่” ผมคิด

จากกุหลาบล็อตแรกที่บานสะพรั่งด้วยการอัดปุ๋ยเร่งดอกมาจากสวนกุหลาบ กลับกลายเป็นกุหลาบที่ตรอมใจด้วยความโศก เหี่ยวเฉา และรอวันพิพากษาว่าจะยังคงยืนต้นต่อหรือตายไปจากสวนหน้าบ้านของผมดี ผมรดน้ำด้วยความสม่ำเสมอ เด็ดใบที่แห้งเหี่ยวออกจนเกือบจะโกร๋นไปทั้งต้นใส่ปุ๋ยตามที่ได้รับคำแนะนำ และเพียรเฝ้ามองมันวันละหลายๆ ครั้ง ราวกับจะคอยเช็กว่ามันยังมีลมหายใจอยู่หรือเปล่า “ตายก็ตาย ปลูกใหม่ ไม่ตายก็เลี้ยงดูกันไปอย่างนี้แหละ ถึงจะไม่มีดอกออกมาให้ชมก็ตาม” ผมบอกตัวเองอย่างนั้น 

ในช่วงเวลาแห่งความเป็นความตายของกุหลาบ ชีวิตก็มีเรื่องมากมายให้ต้องจัดการ จากที่เคยเพียรไปสังเกตสังกาต้นกุหลาบวันละหลายๆ ครั้ง ก็เหลือเพียงการรดน้ำวันละครั้ง จะเช้าหรือดึก ก็แล้วแต่ความสะดวกของชีวิต จนลืมไปว่าต้นไหนจะตาย ต้นไหนยังไม่เคยออกดอกเลย และเช้าวันหนึ่งกุหลาบพันธุ์ Strawberry Hill ที่เลื้อยออกไปนอกรั้วบ้านพ้นเขตสายตาก็ผลิดอกสีพีชบอบบางให้เห็นเป็นครั้งแรก ใกล้ๆ กันนั้น Spirit of Freedom ก็ออกช่อตูมที่คาดว่าจะบานในอีกไม่กี่วันข้างหน้า

มันคงตัดสินใจแล้วว่าจะผลิดอกและมีชีวิตต่อไป ไม่รู้ว่าด้วยปุ๋ย น้ำ แสงแดด หรือเจตจำนงของมันเอง ผมหยิบมือถือออกมาถ่ายกุหลาบ Strawberry Hill สีพีชสวย ก่อนจะเขียนข้อความสั้นๆ ลงไปในรูปว่า ‘สวัสดีวันพุธ’ แล้วส่งไลน์ไปให้แม่

สันติชัย อาภรณ์ศรี 

บรรณาธิการบริหาร