BUSINESS TALK – WAR GRILL

Written by  
26.02.18 269 views

War Grill

  สิ่งที่น่าสนใจเกี่ยวกับร้าน  War Grill  ร้านสไตล์ปิ้งย่างของนักร้องหนุ่ม  จารุวัฒน์  เชี่ยวอร่าม  หรือโดม  เดอะ  สตาร์  ไม่ใช่แค่ชื่อร้านสุดครีเอทีฟที่ไปด้วยกันกับการตกแต่งร้านอย่างดี  แต่เป็นประสบการณ์การทำร้านของหนุ่มคนนี้ซึ่งเป็นคนไม่กินเนื้อ  แต่ด้วยความที่ธุรกิจร้านอาหารร้านนี้เป็นร้านปิ้งย่างที่โดดเด่นด้วยเนื้อเป็นหลัก  เราจึงกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเนื้อไปโดยปริยาย


มาทำร้านอาหารได้ยังไงครับ 

  ชอบกิน  ชอบทำอาหาร  ตั้งแต่เด็กๆ  อยู่แล้วครับ  ชอบเข้าครัวไปช่วยแม่ทำกับข้าว  สนุกดี  ก็เลยรู้สึกว่าอยากทำร้านอาหาร  แต่ยังไม่มีโอกาส  พอเพื่อนชวนปั๊บมันก็เลยลงล็อคลองทำดู  ร้านนี้ผมหุ้นกับเพื่อนครับ  รวมทั้งหมด  8  คน  ตอนแรกก็ไม่ได้กะว่าจะทำร้านปิ้งย่างเลย  ในใจมีทั้ง  ร้านชาบู  ร้านส้มตำ  ร้านสเต๊ก  แต่เสียงส่วนใหญ่โหวตกันว่าเนื้อย่างเป็นร้านที่ยังไม่มีในย่านนั้น  และร้านเนื้อย่างของเราก็จะเป็นคนละตลาดกับหมูกระทะ  คนละตลาดกับชาบู 

  เริ่มจากขับรถตระเวณดูทำเลตามแนวสถานีรถไฟฟ้า  เราเลือกทำเลที่ติดรถไฟฟ้าเป็นหลัก  เป็นทำเลที่ยังไม่ค่อยมีคู่แข่ง  ทำเลที่ในอนาคตมันจะเติบโตไปได้  เผอิญว่าเพื่อนผมทำงานอยู่ที่  SCG ก็เลยขับมาดูแถวนี้  มันเป็นเส้นที่รถไฟฟ้ากำลังจะเปิดเส้นใหม่  ไปทั้งเวสต์เกต  แคราย  ก็เลยรู้สึกว่าเส้นนี้อนาคตมันกำลังจะเติบโต  เลยเลือกทำเลตรงนี้ครับ


ส่วนตัวเป็นคนชอบกินเนื้ออยู่แล้วไหมครับ

  ผมไม่กินเนื้อ  ตลกไหม  ผมมาจากครอบครัวคนจีน  โตมาด้วยการไม่กินเนื้อ  ที่ภูเก็ตมันจะหาเนื้อกินยากมาก  ก็จะไม่ได้กินเลย  จนมาอยู่กรุงเทพฯ  มาเรียนหนังสือ  ก็ไม่ได้กิน  กินบ้างเล็กน้อย  แต่ไม่เคยถึงขั้นแบบว่า  โอ๊ย  อยากกินเนื้อ  วันนี้ไปกินเนื้อกันดีกว่า  พอเพื่อนชวน้เปิดร้านเนื้อย่างนี่แหละถือเป็นการเปิดโลกของตัวเองเลย 

  จากคนไม่กินเนื้อเลย  เราจำเป็นต้องรู้จักเนื้อทุกอย่าง  แล้วก็ต้องรู้จักเนื้อว่าแบบไหนที่ดี  แบบไหนที่ไม่โอเค  แล้วก็เป็นช่วงที่ผมไปญี่ปุ่นพอดี  ก็ไปลองชิมเนื้อ  กินๆๆๆ  เพื่อให้รู้ว่ารสชาติว่าเนื้อที่ดีควรจะเป็นอย่างไร  ก็ไปลองชิมเนื้อวากิว  ระดับ  A3-A5  ว่าเป็นอย่างไร  พอกลับมาเมืองไทยก็ตระเวนหา  supplier ร้านเนื้อ  ก็ต้องชิมอีก  ชิมเนื้อทุกๆ  อย่าง  ก็จะรู้ว่าส่วนไหนที่โอเค  เนื้อชนิดไหนที่เรารู้สึกว่านำมาปิ้งย่างแล้วมันนุ่ม  คือเนื้อบางอย่างเนี่ยทำสเต๊กอร่อย  แต่ปิ้งย่างไม่อร่อย  ทำชาบูอร่อยแต่ปิ้งย่างไม่อร่อย  จนได้เนื้อที่เราคิดว่าอร่อย


แล้วที่ร้านใช้เนื้ออะไรครับ

  เนื้อวากิวครับ  แต่ว่าถูกเพาะเลี้ยงในประเทศไทย  คำว่า  วากิว  เป็นเนื้อสายพันธุ์วากิวที่วิธีการการเลี้ยงดี  แต่แล้วแต่ว่าเลี้ยงอยู่ที่ไหน  ถ้าสมมติเป็นวากิวเลี้ยงที่โกเบ  เขาจะเรียกว่าเนื้อโกเบ  นี่คือเนื้อวากิวไทย  เลี้ยงที่ประเทศไทย  แต่ว่าลักษณะการเลี้ยงและสายพันธุ์เป็นแบบเดียวกันกับเลี้ยงที่อื่นครับ

  เนื้อจะแบ่งตามระดับความมัน  2 3  ก็คือระดับความมันแทรกน้อย  4 5  เนี่ยความมันมันจะแบบแทรกเยอะ  ลายเนื้อจะเป็นลายหินอ่อน  ซึ่งของเราเก็จะมีตั้งแต่ระดับ  2 3  ไล่ไปจนถึง  4 5  ทุกราคาจะมีเนื้อหมด  คือเพื่อให้คนได้กินเนื้อ  คนที่ชอบกินเนื้อเนี่ย  ไม่ว่าคุณจะกินราคาไหน  คุณจะได้กินเนื้อแน่นอน  สมมติว่าคุณมากับครอบครัวที่ไม่กินเนื้อ  คุณกิน  399  ก็จะรู้สึกว่าก็ยังได้กินเนื้ออยู่  ในขณะที่คนไม่กินเนื้อก็มีอย่างอื่นให้กินด้วย


สไตล์การตกแต่งร้านเป็นยังไครับ

  ชื่อร้าน  War Grill มันพ้องกับคำว่า  วากิว  ความหมายคือว่าเรามาเปิดสมรภูมิการกินปิ้งย่างกันเถอะ  การแต่งร้านก็จะเป็นแบบมิกซ์แอนด์ไม่แมตช์  ตั้งใจอยากให้มันดูดิบๆ  เถื่อนๆ  ด้วยคอนเซ็ปต์ร้านเป็นสงครามอะ  เราจึงอยากได้อารมณ์สงครามเวียดนาม  มันจะมีความดิบอยู่ไม่ได้ต้องการจะเป็นร้านสไตล์ญี่ปุ่นจ๋า


ได้เรียนรู้อะไรบ้างในการเริ่มทำธุรกิจ

  เยอะเลยครับ  เดือนหนึ่งที่ลองผิดลองถูก  มีเนื้อเสีย  ก็ต้องทิ้ง  กุ้งเน่าแล้วก็ต้องทิ้ง  เดือนแรกที่เปิดเจ็บเยอะมาก  เพราะว่าเราไม่เคยทำร้านอาหารมาก่อน  เราคาดเดาอะไรไม่ได้  บางวันลูกค้ามานั่งรอเต็มเลย  แล้วไม่มีของให้เขา  เราไม่กล้าสั่งมา  เพราะกลัวของเหลือ  โดนด่าก็ต้องโดนด่า  ยอมโดนด่า  ต้องขอโทษแล้วก็รับผิดชอบไป  ชดใช้ไปตามจำนวน  แต่เรามีทีมงานที่ดี  ลุยไปด้วยกัน  มีพนักงานที่เป็นครูให้เราได้  ทีมแม่ครัวเนี่ย  เขาเคยทำงานที่อื่นมาก่อน  เราก็เรียนรู้จากเขาได้เหมือนกันครับ

  ในทางส่วนตัว  ทุกวันนี้ผมกินบุฟเฟ่ต์ไม่เหมือนเดิม  ผมกินในลักษณะการมองในมุมธุรกิจมากขึ้น  สมมติไปกินที่อื่นนะ  เราก็จะมองว่าอันนี้  โอ๊ย  เรารู้ต้นทุนว่าเท่าไหร่  ซึ่งเวลาเราไปกินที่อื่นเราก็จะเห็นทั้งข้อดีและข้อเสีย  ข้อดีคือทำให้เราได้วิชาจากการไปกิน  แล้วนำกลับมาปรับใช้กับร้านตัวเอง  อย่างเช่น  ไปเจอเมนูนี้แล้วรู้สึกว่า  เอ๊ย  เราสามารถเอามาประยุกต์ได้นะ  ด้วยวัตถุดิบที่เรามี  แล้วสามารถสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้  ข้อเสียคือ  เราก็จะไม่มองการกินบุฟเฟ่ต์เหมือนเดิมอีกต่อไป  จากเมื่อก่อนเรากินเพื่อความอร่อย  สนุก  แต่ทุกวันนี้มันกินแล้วมันเครียด  เหมือนคนเรียนหนัง  เวลาไปดูหนังก็จะไม่สนุกแบบคนดูหนังทั่วไปแล้ว  เวลาไปกินบุปเฟต์ที่อื่นก็จะนั่งคิดวิเคราะห์ว่า  อันนั้นเท่าไหร่  อันนี้เท่าไหร่  อันนี้มันเอาไปทำอย่างไรนะ  ใส่อะไรบ้าง  ไม่สนุกเลยครับ


Know More

        ร้าน  War Grill ของโดมอยู่ใกล้สถานีรถไฟฟ้าเตาปูนมากนัก  ลงจากสถานีแล้วเดินต่อขึ้นไปอีกไม่เกิน  10 นาทีก็ถึง

   – ราคาบุฟเฟต์ของร้านเริ่มต้นที่  399 / 599 / 999 สามารถทานได้ทุกอย่าง  ต่างกันแค่คุณภาพของเนื้อเท่านั้น

        ร้านเปิด  11.00 . และปิดตอน  22.00 .